หนองบัวลำภู(ชมคลิป)คนเสียสติทุบพระนาสิกองค์พระสมัยพระไชยเชษฐาธิราช ก่อนจัดงาน”ตำนานนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน”ตอน “จารึกมหัศจรรย์สุวรรณคูหา”

พ่อเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบพระพุทธรูปเก่าแก่ ร่วม 400 กว่าปี สมัยพระไชยเชษฐาธิราช ถูกทุบทำลาย ก่อนกำหนดวันที่จังหวัดเตรียมจัดงานแสง สี เสียง “ตำนานนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน”ตอน “จารึกมหัศจรรย์สุวรรณคูหา” ระหว่าง 3-7 ก.ค. นี้

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(29 มิย.63) นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ สุตลาวดี ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู นางสาวพัชนี สภา วัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรณคูหา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมกันตรวจสอบ องค์พระพุทธรูปปางนาคปรก พระไชยเชษฐาธิราช พระประธาน ในโบสถ์วัดถ้ำสุวรรณคูหา หมู่ที่ 7 ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

สืบเนื่องจาก มีคนพบเห็นพระพุทธรูปปางนาคปรก ถูกคนร้ายทำลายได้รับความเสียหาย บริเวณพระพักตร์ ช่วง จมูก และใบหูของ องค์พระพุทธรูปปางนาคปรก พระไชยเชษฐาธิราช ทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและ สปป.ลาว เดินทางมาเคารพสักการะโดยเฉพาะในช่วงเดือน 3 ซึ่งเป็นเทศกาลงานบุญข้าวจี่ที่จัดได้ยิ่งใหญ่ในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งจะได้ประสานในการซ่อมแซมบูรณปฏิสังขรณ์ให้กลับมาเหมือนองค์เดิม โดยกรมศิลปกร จะมาเป็นฝ่ายดำเนินการจัดทำ หลังจากได้รับรายงานว่า องค์พระประธานของวัดถ้ำสุวรรณคูหา ถูกคนร้ายทำลายก็ได้มีการสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาตัวคนก่อเหตุ และในวันนี้จึงได้เดินทางมาตรวจสอบถึงสภาพความเสียหายและการซ่อมแซม
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิย 63 เวลา 12.40 น. ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ เนตรสว่าง พนักงานสอบสวนเวร สภ.สุวรรณคูหา ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีเหตุพระพุทธรูปปางนาคปรก พระประธาน ภายในวัดถ้ำสุวรรณคูหา ถูกทำลายและทำให้เสียทรัพย์ที่ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และพร้อมกับชุดสืบสวนออกตรวจที่เกิดเหตุจากการ ตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณใบหน้า จมูก และใบหูทั้งสองข้าง ขององค์พระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งตั้งอยู่ในโบสถ์วัดถ้ำสุวรรณคูหา ถูกของแข็งทุบทำลายจนแตกหัก เสียหาย พบเศษปูน และชิ้นส่วนขององค์พระไชยเชษฐาธิราช พระพุทธรูปปางนาคปรก ตกกระจายอยู่รอบบริเวณหน้าตักองค์พระพุทธรูปปางนาคปรก และที่พื้นด้านหน้าและด้านข้างองค์พระประธาน
จากการสอบสวนเบื้องต้น เหตุเกิด ในช่วงวันที่ 27 มิถุนายน 2563 เวลา 19.00 น.- 06.30 น. และวันที่ 28 มิถุนายน 2563 ทราบจากนางเขมิกา พลพันนา อายุ 50 ปี ที่อยู่ 43 หมู่ที่ 7 ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา โดยให้การว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 17.30 น. นางเขมิกาฯ ได้เข้ามาไหว้พระไชยเชษฐาธิราช พบว่าองค์พระประธาน พระไชยเชษฐาธิราช พระพุทธรูปปางนาคปรก อยู่ในสภาพเป็นปกติ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ และก่อนที่จะเดินทางออกจากพระอุโบสถ เห็นประชาชนเข้ามากราบไหว้องค์พระประธาน พระไชยเชษฐาธิราช พระพุทธรูปปางนาคปรก อยู่จำนวนหนึ่ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 09.00 น. พระอาจารย์ตุ่น พระภิกษุวัดบ้านโนนสมบูรณ์ และพระภิกษุวัดถ้ำสุวรรณคูหา ได้ร่วมกันทำพิธีบวชให้กับพระภิกษุใหม่ พระอาจารย์ตุ่น สังเกตเห็นที่บริเวณใบหน้า จมูก และใบหูทั้งสองข้างขององค์พระพุทธรูปพระประธาน ถูกทำลายได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจที่เกิดเหตุ เบื้องต้นยังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด และได้แจ้งให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองบัวลำภู มาตรวจพิสูจน์หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ต่อมาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา ทราบผู้ต้องสงสัยคือ นายลำไย ไหทอง หรือนายจ่อย ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใกล้วัดถ้ำสุวรรณคูหา และเคยถูกดำเนินคดียาเสพติด และอยู่ในระหว่างบำบัดรักษา สติไม่สมประกอบ และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.สุวรรณคูหา โดยเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนใช้ค้อนทุบทำลาย องค์พระประธาน พระไชยเชษฐาธิราช
เนื่องจากเหมือนมีเสียงมากระซิบที่ข้างหูสาปแช่งตัวเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนและขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และเมื่อ 4 ปี ก่อน ผู้ต้องหารายเดียวกันนี้ก็ได้ใช้ค้อนทุบทำลายองค์พระประธานองค์นี้ เสียหายเป็นอย่างมาก บริเวณเศียรพระ หลังจากทำลายแล้ว ได้หลบหนีไปอยู่ที่ ประเทศลาวกับภรรยา และพึ่งเดินทางกลับมาได้อาทิตย์เดียว และมาก่อเหตุขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
ด้าน นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ต้องหาได้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วและถูกส่งตัวไปจังหวัดแล้วเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นบุคคลที่เคยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากก่อเหตุแล้วก็หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาวกับภรรยา เป็นคนที่มีประวัติเสพยาเสพติด อาการคล้ายประสาทหลอน ครั้งแรกนั้นเขาทะเลาะกับภรรยาคิดว่า องค์พระพุทธรูปซ่อนภรรยาไว้ในถ้ำ จึงมาทุบทำลายและหนีไป ครั้งนี้คิดว่าพระพุทธรูปสาปแช่งเขา ส่วนเรื่องคดีความการทำผิดในเรื่องของโบราณสถานโบราณวัตถุ ซึ่งอายุยาวนานมาก 400 กว่าปี สร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 700,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ยังกล่าวอีกว่าสำหรับกำหนดการจัดงาน แสง สี เสียง ตำนานนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน”ตอน “จารึกมหัศจรรย์สุวรรณคูหา” ซึ่งถูกจัดขึ้น ณ วัดถ้ำสุวรรณคูหา หมู่ที่ 7 บ้านคูหาพัฒนา ตำบลนาสี อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู จากการสำรวจการเตรียมความพร้อมของทีมงานแสดง แสง สี เสียง กำลังเร่งตกแต่งสถานที่แสดง ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม 25 ไม่มีผลกระทบกับการจัดงานในครั้งนี้ ยังคงจะจัดงานตามกำหนดการ เดิม
ทางด้าน นางสาวพัชนี สภา วัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า สำหรับองค์พระพุทธรูปของวัดถ้ำสุวรรณคูหา ที่ถูกทำลายนั้น แม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็ตาม แต่ถือว่า โบราณสถาน โบราณวัตถุที่มีอายุ เกินกว่า 100 ปี ถือว่าเป็นโบราณสถาน ในกรณีก็ถือว่าเป็นโบราณสถาน การทำลาย บทลงโทษมาตราที่ 32 ของ พรบ.ด้วยอายุของโบราณสถาน คือ ปรับไม่เกิน 70,000 บาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี แต่หากได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท

ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู

คลิป, ในประเทศ

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.