วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ที่บริเวณวัดมหาธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วย พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จันทสาโร) นำคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน เรื่องการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พระราชสิริวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม ตลอดจนคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ร่วมให้การต้อนรับและบรรยายการดำเนินงานของโรงเรียนปริยัติธรรม ทั้ง 10 แห่ง ตามพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562 ที่กระจายอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดนครพนม
โดยโรงเรียนปริยัติธรรม ทั้ง 10 แห่งในจังหวัดนครพนม มีพระภิกษุสามเณรที่มาศึกษารวมทั้ง 718 รูป มีครูพระรวมทั้งสิ้น 39 รูป ครูฆราวาส 46 คน ซึ่งการจัดการศึกษานั้นเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของเจ้าอาวาสและคณะกรรมการการศึกษา เริ่มตั้งแต่การบริหารจัดการรถรับส่งพระภิกษุสามเณรที่อยู่รอบนอกวัดเพื่อให้เดินทางมาเรียนโดยสะดวก การจัดหาผ้าไตรจีวร วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอน การจัดภัตตาหารของพระภิกษุสามเณรที่มาเรียน การจ้างครูพิเศษเพิ่มเติม การจัดหาอาคารสถานที่และการบริหารจัดการอื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบันยังมีความเลื่อมล้ำกันอยู่ระหว่างวัดขนาดใหญ่และขนาดเล็กเนื่องมียอดการบริจาคที่แตกต่างกัน ประกอบกับในรอบปีที่ผ่านมามีพระภิกษุสามเณรเข้าเรียนลดลงเป็นเหตุให้ได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลงด้วยเช่นเดียวกัน และในโอกาสนี้ทางคณะผู้บริหารโรงเรียนปริยัติธรรมทั้ง 10 แห่งของจังหวัดนครพนม ได้ฝากปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการโรงเรียนปริยัติธรรมผ่านคณะกรรมมาธิการไปยังรัฐบาล เพื่อขอรับการสนับสนุน สร้างกำลังใจและแรงจูงใจ ในการขับเคลื่อนโรงเรียนปริยัติธรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนด้วย
นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการ เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้มีการลงพื้นที่ไปตามจังหวัดต่าง ๆ เช่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเชียงใหม่ และอีกหลายๆจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องทุกข์ร้องเรียนต่าง ๆ ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ ซี่งทุกเรื่องทุกปัญหาที่ได้รับฟังจะมีการนำเสนอต่อรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและหาทางแก้ไขร่วมกัน เช่นปัจจุบันที่พระภิกษุสงฆ์ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้มีการเสนอให้การดูแลพระภิกษุเป็นระยะเวลา 60 วัน วันละ 60 บาท ซึ่งคณะกรรมาธิการมองว่าน้อยเกินไป ก็เลยได้ที่มีการทำหนังสือเสนอผ่านทางรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ โดยขอการช่วยเหลือขั้นต่ำเป็นเงิน 100 บาทต่อรูป เป็นระยะเวลา 90 วันแทน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสามารถใช้งบเงินกู้ 1 ล้านล้านได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ยังมีในส่วนของเงินงบประมาณเหลือจ่าย หรืองบกลางของสำนักนายกอยู่ และถ้าเรื่องที่เสนอไปผ่านการพิจารณาอนุมัติเมื่อไหร่ จะมีการจ่ายตรงเข้าบัญชีของพระภิกษุที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 2 แสนกว่ารูปทันที

Related posts
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.