“ผู้กองบอย” ร.ต.อ.ทรงกด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง พร้อมมารดา น้องสาวและลูกสาววัย 2 ขวบ กราบขอขมาศพน้องนุ่มนิ่ม หรือนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ภรรยาสาววัย 29 และกราบขอโทษแม่ยายและพี่ชายน้องนุ่มนิ่ม ร่ำไห้ขอโทษผมผิดไปแล้ว เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่มีโอกาสแก้ตัว
วันที่ 24 มิถุนายน 2563 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ หรือน้องนุ่มนิ่ม อายุ 29 ปี หลังเสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ หลังถูกผู้กองบอยหรือ ร.ต.อ.ทรงกด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง สามี ยิงศีรษะเสียชีวิต
ซึ่งในวันนี้ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อผู้กองบอย ซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อคอโปโลสีดำ กางเกงสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ พร้อมมารดา น้องสาว และลูกสาววัย 2 ขวบ ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมีเจ้าหน้าที่สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด และชุดสืบสวน ดูแลความสงบเรียบร้อยในงาน จากนั้น ผู้กองบอยได้นำพวงมาลัยเข้ามาคุกเข่ากราบขอโทษนางทองใส มารดาน้องนุ่มนิ่ม และนายกชกิตติพัฒน์ พี่ชายน้องนุ่มนิ่ม พร้อมกล่าวคำขอโทษและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นขออนุญาตข้าไปขอขมาศพน้องนุ่มนิ่ม ที่นอนทอดร่างไร้วิญญาณอยู่ในโลงศพภายในบ้าน ทั้งนี้ นางทองใส มารดาน้องนุ่มนิ่มและญาติ ก็ไม่ขัดขวาง เปิดโอกาสให้ขอขมาศพตามสะดวก
โดยในทันที่ผู้กองบอยมองเห็นภาพถ่ายของน้องนุ่มนิ่มอดีตภรรยาของตน ที่ตั้งเด่นอยู่หน้าโลงศพ ได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความโศกเศร้า แววตาหม่นหมองด้วยแววสำนึกผิด ขณะที่มารดาและน้องสาวของผู้กองบอย ก็น้ำตาซึม ด้วยความสะเทือนใจ
ด้านนางทองใส ภูคงน้ำ มารดาน้องนุ่มนิ่ม กล่าวว่า การเดินทางมาของผู้กองบอย ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งได้ลงมือทำร้ายน้องนุ่มนิ่มลุกสาวตน และเป็นภรรยาของเขานั้น เป็นการเดินทางมาโดยไม่ได้นัดหมายแน่นอน เนื่องจากเพิ่งได้รับการประกันตัวเมื่อวาน และบอกว่าจะมาขอขมาศพนั้น ก็ไม่รู้กำหนดแน่ชัด อย่างไรก็ตามในเมื่อเขาและมารดา พร้อมแม่และลูกสาวตั้งใจมาก ก็ไม่ขัดขัดขวาง เข้าจะได้สบายใจ หรือวิญญาณของน้องนุ่มนิ่มจะได้รับรู้ จะได้นอนตายตาหลับสำหรับเรื่องทางคดีก็ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม สำหรับความปิดถูกก็อยู่ดีกรรมใดใครก่อก็รับไป ซึ่งในวันนี้ตนรู้สึกผ่อนคลายจากความสูญเสียบ้างแล้ว และยังอยู่ในระยะทำใจ ส่วนคนที่จะทุกข์ไปตลอดชีวิตก็คือผู้ก่อกรรม ต่างกรรมต่างวาระ
นางทองใสกล่าวอีกว่า ในขณะที่ผู้กองบอยมากราบขอโทษ และขอขมาศพน้องนุ่มนิ่มนั้น ตนรู้สึกแทบจะพูดอะไรไม่ออก ซึ่งในส่วนที่ผู้กองบอยกล่าวคำขอโทษและเสียใจนั้น ตนทำได้แค่ได้ยิน ส่วนเวรส่วนกรรมก็ขอให้ตกแก่ผู้กระทำ และตนก็ไม่ได้ผูกใจเจ็บอะไรต่อไป ความสูญเสียน้องนุ่มนิ่ม สักวันคนจางไป และน้องนุ่มนิ่มจะอยู่ในใจเราของพวกเราตลอดไป ส่วนใครจะรับผลกรรมยังไงนั้น สุดแท้แต่จะผลกรรมกันไป ทั้งนี้หลายๆคนอยากให้เขาบวชหน้าไฟ แต่ในเมื่อเขาเป็นคนต่างศาสนา ก็บวชไม่ได้สุดแท่ที่เขาจะพิจารณาไถ่โทษให้ตนเองก็แล้วกัน
ด้านนายสมัย ภูคงน้ำ ปลัด อบต.ยางตลาด น้าน้องนุ่มนิ่ม กล่าวว่า ผู้กองบอยและคณะมากราบขอขมาญาติและศพน้องนุ่มนิ่มเพียงสักพักก็กลับไป ซึ่งไม่ทราบว่าจะเดินทางกลับ หรือหาที่พักเพื่อมาร่วมงานฌาปนกิจศพพรุ่งนี้หรือไม่ ทั้งนี้ ญาติทุกคนก็ยินดีต้อนรับ ให้มาร่วมพิธีส่งดวงวิญญาณของน้องนุ่มนิ่มขึ้นสวรรค์ได้ ไม่ปิดกั้น เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายให้กับน้องนุ่มนิ่มที่จากพากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ
นายสมัยกล่าวอีกว่า ในส่วนของการคัดค้านการประกันตัวของผู้กองบอย โดยเบื้องต้นทางญาติได้ปรึกษากันว่าจะตั้งทนาย และทำหนังสือยื่นอุทธรณ์คัดค้านการประกันตัวต่อศาลนั้น ยังไม่ตกลงกันเรื่องวัน เวลาว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ ขอให้จัดการงานศพของน้องนุ่มนิ่มผ่านไปก่อนสัก 2-3 วัน จึงจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะพรุ่งนี้ยังจะต้องจัดพิธีฌาปนกิจศพให้ลุล่วงไปก่อน