เกษตรกรสาวสวยที่อำเภอภูเวียง นำต้นพันธุ์มะนาวคาเวียร์จากต่างประเทศมาทดลองปลูกบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ลองผิดลองถูกมาหลายปี จนกระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถเก็บผลผลิตส่งขายทางออนไลน์ และส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทย สร้างรายได้ปีละหลายแสนบาท
4 ก.พ. 68 น.ส.นภาภรณ์ ทองชมพู หรือ คุณแดง เจ้าของไร่บุญชู สวนคุณแดง บ้านพระบาทน้อยโนนคูณ ต.นาหว้า อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวเดินดูลูกมะนาวคาเวียร์ ที่กำลังออกผลผลิตเต็มต้น หลังจากนำต้นพันธุ์มาจากประเทศออสเตรีย เมื่อ 7 ปีก่อน ก่อนจะนำมาทดลองปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ กว่า 3,000 ต้น ซึ่งขณะนี้พร้อมสำหรับเก็บส่งขายให้กับลูกค้าที่สั่งจองผ่านทางออนไลน์เอาไว้ รวมทั้งเก็บเตรียมส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทย ถึงแม้ว่ามะนาวคาเวียร์จะมีรูปร่าง และสีสันแปลกตา แต่รสชาติ มีความเปรี้ยวและหอมไม่แพ้มะนาวบ้านเรา
น.ส.นภาภรณ์ เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะปลูกมะนาวคาเวียร์จนออกผลผลิตได้แบบนี้ ก็ผ่านการลองผิดลองถูก จนกระทั้งค้นพบว่า การจะปลูกมะนาวคาเวียร์ที่เป็นพืชนำเข้าจากต่างประเทศให้ผลผลิตดี จะต้องคัดเลือกสายพันธุ์และต้นตอที่ใช้เสียบยอดให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี ที่สำคัญต้องมีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูก วิธีการปลูกจะใช้การเสียบยอด โดยใช้กิ่งพันธุ์ที่มีอายุ 6 – 7 เดือน ปลูกลงในอ่างปูนซีเมนต์ หรือเข่งใส่ผลไม้ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลและป้องกันวัชพืช
นอกจากนี้ยังต้องทำคอกสี่เหลี่ยม มีผ้าแสลนกรองแสงแดดล้อมไว้ทุกด้าน เพื่อไม่ให้ต้นได้รับแสงแดดช่วงบ่ายมากเกินไป ยกเว้นด้านทิศตะวันออกให้เปิดไว้ เพื่อให้ต้นรับแสงแดดในช่วงเช้า ซึ่งการปลูกจะต้องใช้ความอดทน เนื่องจากจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ในช่วงเริ่มแรกแบบนี้ประมาณ 2 ปี มะนาวคาเวียร์เป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมากเกินไป ดังนั้นหากปลูกในอ่างซีเมนต์หรือเข่งผลไม้ ให้รดน้ำเฉพาะช่วงเช้าทุกวัน หากปลูกลงดินจะรดน้ำวันเว้นวัน หรือ ดูที่ความชุ่มชื้นของดิน ปุ๋ยที่ใช้จะเป็นปุ๋ยมูลสัตว์ เพื่อให้ดินร่วนซุย หากต้องการให้รากเดินได้ดีในช่วงฤดูฝนให้ใส่ปุ๋ยจากมูลสุกรสลับกับมูลไก่
จากนั้นสลับใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ จนถึงช่วงเดือนตุลาคมต้นจะเริ่มออกดอกและมีลูกเล็ก ๆ ให้ใส่ปุ๋ยมูลไก่ เพื่อช่วยให้ลูกโตเร็ว สีข้างในจะสวย ส่วนศรัตรูพืชก็มีไม่ต่างจากการปลูกพืชในบ้านเรา คือ มีหนอนชอนใบและเพี้ย รวมทั้ง “โรคยางไหล” ที่มักจะเกิดกับต้นมะนาวคาเวียร์ มีลักษณะเป็นยางใสสีน้ำตาลออกมาตามลำต้น ซึ่งมีสาเหตุมากจากการได้รับน้ำมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งก็จะใช้วีธีการป้องกันตามโรคที่เกิดขึ้น โดยจากการที่ได้ทดลองปลูก พบว่า สายพันธุ์ที่เหมาะกับการปลูกในประเทศไทยที่สภาพอากาศร้อนเกือบทั้งปี มีอยู่ประมาณ 5 สายพันธุ์ เช่น เรดแชมเปญ เป็นสายพันธุ์ที่โตไว ลูกยาวเฉลี่ย 3 นิ้ว น้ำหนักดี โดยลูกแก่พร้อมเก็บเปลือกจะเป็นสีแดงและเนื้อในเป็นสีแดง ต้นที่จะให้ผลผลิตได้จะต้องเป็นต้นที่มีอายุประมาณ 3 ปีขึ้นไป
น.ส.นภาภรณ์ เล่าอีกว่า แม้จะเป็นพืชที่ต้องใช้เวลาในการดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็ให้ผลผลิตและรายได้คุ้มค่าต่อการลงทุนลงแรง เพราะลูกมะนาวคาเวียร์มีราคาซื้อขายสูงถึง 1,500 – 2,000 บาทต่อกิโลกรัม ใน 1 ต้น สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองถึง 20,000 บาท ส่วนต้นพันธุ์ขายราคาต้นละ 250 บาท ปัจจุบันทางไร่มีการขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ รวมทั้งมีออเดอร์จากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ (แมคโคร และ เดอะมอล์) มะนาวคาเวียร์สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย เมล็ดข้างในคล้ายไข่ปลาคาเวียร์ หรือ ไข่แมงดานา เวลาเคี้ยวจะกรุบกริบ นิยมนำไปประกอบอาหาร เช่น สเต็ก หรือ รับประทานเป็นผลไม้จิ้มเกลือก็สดชื่น สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อมะนาวคาเวียร์ ต้นพันธุ์ รวมทั้งศึกษาการปลูก สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “มะนาวคาเวียร์ ไร่บุญชู สวนคุณแดง-Caviar Lime (มะนาวคาเวียร์) โทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 082-8041871
