ชัยภูมิ – เกษตรกรสาว อดีตนิสิตมหาวิทยาลัยดังฝั่งตะวันออก อำเภอซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขาย ทำรายได้กว่าปีละล้านบาท

เกษตรกรสาว อดีตนิสิตมหาวิทยาลัยดังฝั่งตะวันออก อำเภอซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขาย ทำรายได้กว่าปีละล้านบาท


วันที่ 20 ธ.ค.67 น.ส.ศุภาวณี รวดชัยภูมิ อายุ 32ปี บ้านเลขที่ 147 ม.4 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ เผย ตนเองจบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี และเคยทำงานประจำมาแล้วแต่เนื่องด้วยรายได้ไม่คงที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตจึงได้ลาออกจากงานประจำและนำเอาความรู้เคยเล่าเรียนมาพาพ่อแม่ครอบครัวปรับเปลี่ยนแนวคิดจากเคยปลูกมันสำปะหลังซึ่งมีรายได้เพียงปีล่ะครั้งพลิกวิกฤตหันมาทำสวนฟักทองขายได้เงินเร็วใช้เวลาปลูกเพียง2เดือนเศษๆก็สามารถเก็บผลขายสู่ท้องตลาดได้แล้วปีหนึ่งพื้นที่ 26 ไร่สามารถทำเงินให้กับครอบครัวมีรายได้หลักล้านบาทเลยทีเดียว


ซึ่งในช่วงแรก ๆ ของการทำสวนฟักทองตนได้ทดลองปลูกฟักทองดูก่อนเพียง 15 ไร่เพื่อเก็บลูกอ่อนไปขายให้กับพ่อค้า แม่ค้าที่ตลาดสดใน อำเภอจัตุรัส พร้อมกับขายเร่ให้กับชาวบ้านตามชุมชนต่าง ๆ ต่อมาได้รู้จักกับพ่อค้าที่วิ่งรับซื้อฟักทองลูกแก่ และได้แนะนำให้ตนปลูกฟักทองลูกแก่ขายดูเพราะจะน้ำหนักมากกว่าฟักทองลูกอ่อน จึงได้นำความรู้ที่มีหันมาลงทุนปลูกฟักฟองอย่างจริงจังบนพื้นที่กว่า 26 ไร่ ฟักทองที่ปลูกมีลูกสวยได้ผลผลิตดีเป็นที่รู้จักของพ่อค้าและฟักทองสวนตนติดตลาดเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไป เมื่อปลูกฟักทองเสร็จในทุก ๆ ครั้งก็จะมีพ่อค้าติดต่อจองคิวมาซื้อถึงในสวน ปีนี้ราคาตลาดรับซื้อที่กิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งตนกำลังทยอยเก็บขายวันละ 8-10 ตันต่อวัน คาดว่าเมื่อเก็บผลผลิตเสร็จจะทำให้ตนและครอบครัวมีรายได้จากการขายฟักทองนับล้านบาทเลยที่เดียว

นอกจากนี้หลังจากเก็บผลผลิตของฟักทองเสร็จ ตนก็จะได้ทำการปรับแปลงมาปลูกข้าวโพดแทน สลับหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป ซึ่งในหนึ่งปีจะสามารถทำประโยชน์จากไร่แห่งนี้ได้ถึงสองครั้ง แตกต่างจากการปลูกมันสำปะหลังมาก ซึ่งในหนึ่งปีถึงจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตเพียงครั้ง เดียวหากปีไหนราคาตกต่ำชีวิตก็ยิ่งย่ำแย่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะปีนี้ราคามันสำปะหลังต่ำมาก ราคา 1.60-2.00 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของแป้งแถมการปลูกมันสำปะหลังดูแลยากกว่าค่าใช้จ่ายต้นทุนที่สูง ขณะเดียวกันยังมีโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วในขณะนี้นั่นก็คือโรคมันใบด่างในมันสำปะหลังจึงทำให้ชาวบ้านเกษตรกรต้องพบเจอเมื่อเกิดโรคผลผลิตที่ได้ก็จะไม่ดีพอขายก็ไม่ได้ราคาอีกด้วย


สำหรับแต่หัวใจสำคัญในการปลูกฟักทองต้องไม่ขาดน้ำ เกษตรกรควรคำนึงถึงแหล่งน้ำเป็นสำคัญเพราะจะทำให้ผลผลิตมีลูกสวยสมบูรณ์ขายได้ราคาดี ต้นทุนค่าแรงงานก็น้อยค่าเมล็ดพันธ์ก็ถูกหนึ่งไร่ใช้เมล็ด1ถุงถุงล่ะ750บาท เวลาเก็บก็ไม่ต้อเสียค่าขนส่งมีรถมารับถึงที่ ปีนี้ราคาอยู่ กก.ละ 10 บาท ก็ถือว่าได้ราคาพอสมควรสำหรับตนเองเลือกปลูกฟักทองสายพันธุ์ ศรแดง ลายข้าวตอก เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดลูกสวยสมบูรณ์ขายได้ราคาดี หากใครสนใจที่จะมาศึกษาเพื่อเป็นแนวทางยินดีให้คำแนะเพราะอยากให้เกษตรกรมีรายที่ดีขึ้นจากเดิมเช่นสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 062 -1799558


ด้านนายณัฐพศุตม์ โชติจิรศิริกุล นายอำเภอซับใหญ่ ก็ได้ลงพื้นที่ดูแถวทางในการปลูกฟักทองพร้อมแนะเกษตรกรให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดให้หันมาปลูกพืชชนิดอื่นเสริมเพื่อป้องกันมันสำปะหลังราคาตกต่ำก็ยังมีพืชชนิดอื่นขายได้อีกด้วยโดยเฉพาะฟักทองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกษตรกรควรเพาะเป็นอีกอาชีพที่สามารถทำเงินได้ดีแถมยังจะช่วยด้วยแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังที่ตกต่ำให้กับเกษตรกรได้อีกด้วยโดยเฉาพพื้นที่อำเภอซับใหญ่นั้นเป็นพื้นที่เหมาะสำหรับทำการเกษตรได้หลากหลายชนิดมีเกษตรต้นแบบที่ทำสำเร็จมาแล้วหลายราย ที่พร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรที่อยากปรับเปลี่ยนแนวคิดเพื่อปลูกพืชนิดอื่น สามารถรับคำปรึกษาได้ที่อำเภอหรือเกษตรอำเภอซับใหญ่ได้เพื่อเกษตรกรจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ

 

ในประเทศ

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.