ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานเผาศพแรงงานอุดรที่เสียชีวิตในอิสราเอล พ่อแม่บ่นยังไม่มีเงินใครช่วยต้องกู้ญาติมาเป็นแสน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่วัดบรมสมภรณ์ บ้านหนองโน ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ได้มีพิธีฌาปนกิจศพนายอรรถพล วรรณไสย อายุ 29 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสงครามในประเทศอิสราเอล โดยมีพระครูอมร วรานุวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดบรมสมภรณ์ บ้านหนองโน เป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รักษาราชการรองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส และมีนายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี, นายวัชระพล ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี เขต 9 พรรคเพื่อไทย, นายณัฐพงษ์ พิพัฒนไชยศิริ ส.ส.อุดรธานี เขต 1 พรรคประชาชน, นายเสกสรร จุมพลหล้า นอภ.กุดจับและข้าราชการพ่อค้าประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมงานในครั้งนี้
หลังจากที่นายสมาสภ์ ได้เป็นประธานทอดผ้าไตรแล้ว พระครูอมร วรานุวัฒน์ ได้ทำพิธีเผาหลอกต่อหน้าศพของนายอรรถพล เสร็จแล้ว ญาติ ๆ ก็ได้ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ จากนั้นเจ้าหน้าที่วัดก็ได้เปิดโลงให้ญาติ ๆ ได้หน้าศพเป็นครั้งสุดท้าย พบว่าสภาพศพตามลำตัวยังสภาพดี แต่ที่แขนนั้นได้ขาดจากลำตัวคาดว่าคงถูกระเบิด และทางเจ้าหน้าที่ของได้เย็บติดมากับลำตัวแบบหยาบ ๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพาเข้าเตาเผา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ ๆ
นายสมาสภ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในการช่วยเหลือญาติผู้ตายในครั้งนี้มันมีอยู่ 2 ส่วน คือกองทุนของการช่วยเหลือคนที่ไปทำงานในต่างประเทศ ตรงนี้จะได้เงิน 4 หมื่นบาทในกรณีที่เสียชีวิต แต่ว่าในขณะนี้อยู่ในการวินิจฉัยอาชีพ ก็จะเร่งให้เร็วที่สุด ในส่วนที่สองคือเรียกง่าย ๆ คือการประกันสังคมของประเทศอิสราเอล ส่วนนี้ทางประเทศอิสราเอลจ่ายให้คนที่ประสบภัยสงครามในประเทศอิสราเอล ซึ่งตรงนี้ผู้ตายก็จะได้รับเงินในส่วนนี้ด้วย ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมหลักฐานแล้วจะยื่นเรื่องให้กับประเทศอิสราเอล
ส่วนเรื่องที่ถามว่าในขณะนี้ทางฝ่ายรัฐยังคงสนับสนุนให้คนไทยไปทำงานในประเทศอิสราเอลอีกหรือไม่นั้น ก็ตอบได้ว่าตอนนี้ทางกระทรวงแรงงานยังส่งคนงานไปในที่ปลอดภัยคือในพื้นที่สีเขียวเท่านั้น คนงานไทยจะต้องทำงานในที่ปลอดภัยเท่านั้น ในขณะนี้ยังมีคนงานไทยที่ยังทำงานในอิสราเอลอีกประมาณ 2 หมื่นกว่าคน และทั้งหมดอยู่ในพื้นที่สีเขียว ส่วนที่พื้นที่คนตายเขาเข้าไปทำงานนั้นเขาอพยพออกมาหมดแล้ว แต่น้องเขาของอนุญาตทางการอิสราเอลเข้าไปทำงานเพียง 1 -2 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งทางเอกอัครราชทูต และ รัฐมนตรี ก็เกิดความกังวลใจ ความเสียใจและกำชับมาไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็น 1 หรือ 2 ชั่วโมงก็ตาม ส่วนเรื่องที่คนงานไทยที่อิสราเอลอยากกลับไทย ตอนนี้เราก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบกันแล้วว่า ถ้าใครไม่พอใจที่จะอยู่อยากกลับก็ขอให้บอก หรือใครถ้าอยากอยู่ต่อแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย เราก็ขอให้ย้ายมาด้านใต้ ตอนกลางของประเทศ ซึ่งเราก็จะทำให้เขาทั้ง 2 อย่าง แต่ตอนนี้ยังไม่ใครแจ้งว่าอยากกลับ
ส่วนที่ถามว่าที่ทางอิสราเอล ให้เงินแก่ญาติผู้เสียชีวิตในครั้งนี้เป็นเงิน 1 แสน 2 หมื่นบาทต่อเดือนคือให้พ่อแม่และลูกคนละ 4 หมื่นบาทนั้น นายสมาสภ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วทางประกันภัยของอิสราเอลนี้เขาจะจ่ายเงินประกันภัยให้นี้เขาจะระบุมาเลยว่าให้ใคร เขาระบุความสำคัญของคนที่ตายและญาติที่เหลือใครบ้างที่ผู้ตายช่วยเหลืออยู่ ตอนนี้ตนก็ให้ทางแรงงานจังหวัดติดตามเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งมันก็ใช้หลักฐานพอสมควรแต่ว่า ทางอุดรมีเคสแบบนี้หลายเคสแล้ว ก็มีความชำนาญในเรื่องนี้พอสมควร ส่วนเรื่องที่ฝากไปถึงคนงานที่อยู่และกำลังเดินทางไปอิสราเอลว่า ถ้ารู้ว่าที่นั้นไม่ปลอดภัย หรือไม่สบายใจหรืออยู่ในเขตที่ไม่ปลอดภัยก็ให้รีบแจ้งให้ทางเราทราบก็รีบย้ายให้ทันที
ส่วนนายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ กล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมการในกรรมาธิการต่างประเทศ ก็ได้กล่าวว่า วันนี้หลัก ๆ คือมาแสดงความเสียใจ และจะติดตามเรื่องค่าดูแลให้ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศหรือจากทางประเทศอิสราเอล และได้ให้เบอร์โทรที่สามารถติดต่อทั้งตนเองและทีมงานในอุดรฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
และจะนำเรื่องนี้ไปพูดในคณะกรรมาธิการให้
ตนได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เรื่องของการยิงกันของฮามาสกับอิสราเอล ทุกคนที่พบปะกับประชาชนว่า อุดรธานีเราส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศอันดับ 1 ของประเทศ ปีหนึ่งส่งเงินเข้าประเทศถึง 2 แสนล้านบาท แต่ทุกวันนี้เราถูกดูว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เป็นพวกผีน้อย จริง ๆ แล้วคนอุดรเราเป็นด่านหน้าไปรบส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวที่รัก ประเทศที่ไปส่วนใหญ่มีความเสี่ยง อย่างประเทศที่กำลังประสบภัยสงครามอย่างอิสราเอลกับฮามาส หรือเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ เลยเขามีค่าตอบแทนที่สูง ตอนที่เขามีการยิงกันใหม่ ๆ เขาก็กลับกันมาถึง 9,000 ว่าคน ตอนนี้คนเหล่านี้เขากลับไปหมดแล้ว และทางรัฐไทยก็ยังไปขอโควตาเพิ่มในประเทศที่มีความเสี่ยง อันนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการต่างประเทศ ที่เราพูดคุยกันว่า จะมีการแถลงข่าวกันไม่ให้มีการส่งไปในประเทศที่มีความเสี่ยงอีกแล้ว คือเงินมันซื้อชีวิตไม่ได้ สำหรับในเคสนี้เราจะติดตามให้ เรื่องค่าเยียวยา ค่าเสียหายทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ สำหรับในประเทศตนเข้าใจว่าในปัจจุบัน มันอยู่ที่ 5 หมื่นบาท ซึ่งไม่เยอะนัก สำหรับหัวหน้าครอบครัวที่เสียชีวิต ส่วนภายนอกนั้นตนได้เคยพูดคุยกับท่านทูตของอิสราเอล ซึ่งรับปากไว้ว่าจะดูแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล ให้ดีเหมือนคนของประเทศเขา อย่างไรก็ตามตนก็จะติดตามเรื่องนี้ให้ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ขณะที่นายนพดล วรรณไสย อายุ 53 ปี และนางบุญแปง วรรณไสย อายุ 59 ปี พ่อแม่ของนายอรรคพล วรรณไสย กล่าวว่า ตอนนี้พวกตนหมดอาลัยตายหยากแล้ว เพราะเราเสียเสาหลักของครอบครัวไป เดิมลูกชายเคยไปทำงานที่อิสราเอล ในปี 2562 และกลับมาเมื่อมีภัยสงครามพร้อมกับเพื่อน ๆ ในปี 2566 และหลังจากนั้นไม่นานก็นายจ้างที่อิสราเอลก็เรียกตัวให้กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีก ก็ไปทำงานเหลืออีก 1 เดือนก็จะครบ 1 ปีก็มาโดนกลุ่มฮิลบัลเลาะห์ยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่เกษตรทางตอนเหนือของอิสราเอลที่ลูกชายทำงานอยู่ ทำให้เสียชีวิตพร้อมเพื่อน ๆ รวม 5 คนด้วยกัน
หลังจากที่ทางการได้ช่วยนำศพของลูกชายมาถึงบ้านในวันที่ 8 พ.ย.พวกเราก็ร่วมกับทางญาติ ๆ ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 3 บ้านดงหมากหลอด ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี และในการดำเนินงานศพของลูกชายในครั้งนี้ ก็หมดเงินไปเป็นประมาณ แสนบาท ตนไม่มีเงินเนื่องจากเงินที่ลูกชายเดิมส่งมาให้ เดือนละ 3-4 หมื่นบาท ก็มักจะหมดไปในการก่อสร้างบ้านใหม่ของลูกชาย แล้วเงินเดือนสุดท้ายลูกชายก็ยังไม่ได้ไปกดบัตรเอทีเอ็มส่งมาให้ ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน ก็มีหน่วยงานต่าง ๆ บอกว่าจะมีเงินมาเยียวยาให้แต่ต้องหลังจากเสร็จงานศพเสียก่อน ดังนั้นตนจึงต้องไปกู้ยืมเขามาจัดงานในครั้งนี้ ตอนนี้ก็ยอมรับว่าติดหนี้เงินกู้เขาอยู่เป็นจำนวนแสนบาท ก็ต้องรอว่าหน่วยงานเขาจะเยียวยาตามเขาได้บอกไว้ แต่จะได้เมื่อไหร่ก็ต้องรอ ก็ขอให้ทุกท่านได้ช่วยเหลือพวกตนด้วย ส่วนตัวหลานชายคนเดียววัย 10 ขวบ ( ด.ช.ชยากร วรรณไสย ) ที่เกิดจากลูกชาย ตนก็จะพยายามส่งเสียให้เขาเรียนต่อให้ได้ ทราบแต่เพียงว่าทางอิสราเอลจะช่วยเหลือพวกตนจนตลอดชีวิต ตอนนี้ก็ขอความร่วมมือจากผู้ใหญ่ทุกท่านให้ช่วยติดตามให้พวกตนด้วย