ร้อยเอ็ด – อัยการคุ้มครองสิทธิ์ร้อยเอ็ด เรัยกชาวบ้านให้ข้อมูล กู้เงิน ธ.ก.ส.ไม่กี่แสนแต่เป็นหนี้หลายล้าน.เตรียมกระชากหน้ากากผู้ที่อยู่ในกระบวนการ

กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากการไปยื่นกู้เงิน ธ.ก.ส .สาขาเมืองบัว รวมตัวกันเข้าให้ปากคำต่ออัยการคุ้มครองสิทธิ์ร้อยเอ็ด เบื้องต้นมีผู้เสียหายแล้ว 12 ราย ความเสียหาย 12 ล้านบาท

ที่สำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มชาวบ้าน จากตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด นำโดย นายสุเชิด ชัยชาญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 พร้อมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไปขอกู้เงิน เดินทางเข้ายื่นหนังสือและให้ข้อมูลกับอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อขอความเป็นธรรม

โดยมี พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด นายชานนท์ ลิขิตบัณฑูร ประธานคณะกรรมการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาสำนักงานอัยการภาค 4 และคณะร่วมต้อนรับและร่วมประชุมรับฟังข้อมูลในห้องประชมสำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย เข้า ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชน ของคณะกรรมการอัยการ ภาคประชาชน จังหวัดร้อยเอ็ด มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากไปยื่นเรื่องขอกู้เงินกับ ธ.ก.ส.สาขาเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด คนละไม่กี่แสน แต่กลับกลายเป็นหนี้รายละ 1- 3 ล้านบาท

วันนี้จึงเป็นการเชิญประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากการขอกู้เงินกับทางธนาคารเพื่อมาให้ข้อเท็จจริง ว่ามีความเป็นมาและวิธีการ เป็นอย่างไร เพื่อจะได้ช่วยแก้ปัญหา ให้ทราบว่าแต่ละคนกู้เท่าไหร่ มีหนี้สินจริงเท่าไหร่ และหนี้ที่ไม่ได้ก่อ จำนวนมากน้อยขนาดไหน ตอนแรกชาวบ้านบอกว่าธนาคารรับปากว่าจะหาทางเยียวยาให้ แต่ล่าสุดวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางธนาคาร ธ.ก.ส.สาขา เมืองบัว ก็ได้ปฏิเสธการเยียวยา ดังนั้นวันนี้ต้องรวบรวมว่าแต่ละคนเป็นหนี้เท่าไหร่ อัยการคุ้มครองสิทธิ์และคณะกรรมการอัยการภาคประชาชน จะหาทางช่วยเหลือ ให้ประชาชนรับผิดชอบตามที่เป็นหนี้จริง ทำให้ชาวบ้านต่างตบมือด้วยความดีใจ

มันยุตืธรรมหรือไม่ ไปกู้ไม่กี่แสนเป็นหนี้นับล้านถือว่ามันไม่ถูกต้อง และต้องดูอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกไปพบกับกลุ่มชาวบ้านเพื่อทำธุรกรรม จำนวน 3-4 ราย รวมทั้งผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาดังกล่าว มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะจากการให้ปากคำของพี่น้องประชาชน บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ออกไปพบปะเพื่อพิจารณาจำนวน 3-4 ราย อีกทั้งดูจากราคาหลักทรัพย์ที่ประเมิน มันก็ต่ำกว่าวงเงินที่ธนาคารควรอนุมัติ ดูผิดปกติมาก เวลาอนุมัติก็เร็วผิดปกติ เมื่อรับทราบข้อมูลจากกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว เราก็จะนำมาวิเคราะห์ เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งการกระทำ ลักษณะดังกล่าว หนึ่งในนั้นเป็นคนเดียวกันกับกรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอโพนทอง ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียหายประมาณ 20 ราย หลังจากที่เราได้รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงครบแล้ว ก็จะให้ประชาชนผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.เกษตรวิสัย เพื่อเอาผิดกับกลุ่มคนหรือผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้กระทำเป็น พนักงานของรัฐ และทราบว่า รายที่ก่อเหตุที่อำเภอโพนทอง ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่ เรื่องมันไม่จบ ธนาคารซึ่งเป็นของรัฐ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ธนาคารต้องมีส่วนรับผิดชอบไม่ใช่โยนความรับผิดชอบให้ชาวบ้านนี่คือเป้าหมายที่เราจะทำต่อไป

อีกเรื่อง การไปขอจดจำนองใช้เอกสารสิทธิ์ที่ดิน ของผู้เสียกายรายหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารไปตั้งแต่ปี 64 เมื่อไปสอบถามตอนนี้ก็ธนาคารก็แจ้งว่าไม่พบเอกสารดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการกระทำซ้ำซ้อน หรือประชาชนอาจจะได้รับความเดือดร้อนจากการมีหนี้ซ้อนขึ้นมาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ประชุมจึงฝากไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ไปทำธุรกรรม โดยเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับ ธ.ก.ส. ให้ตรวจสอบดูว่าเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินของท่านยังอยู่กับธ.ก.ส.หรือไม่ ถ้าไม่มี มันหายไปไหน และใครเป็นผู้เอาไป


พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า กรณีเกษตรกรผู้ได้รับความเสียหายจากพนักงาน ธกส.สาขาเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย ประเด็น ความผิดปกติ คือลายมือชื่อปลอมปลอมหรือไม่ ระยะเวลาการขอสินเชื่อ พนักงานรายอื่น มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ การเบิกเงินทำไทให้ไปเบิกที่ ธกส.เกษตรวิสัย โครงการจำนำข้าว โครงการซื้อรถแทรกเรอร์ล้อยาง ราคาประเมินที่ดิน มีการจดทะเบียนจำนองหรือไม่
ณ วันนี้มีประชาชนที่เข้ามาให้ข้อมูล มีจำนวน 12 ราย
1.นางบัวไข วงษ์ม่วย อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 7ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ความเสียหาย 1,000,000 บาท
2.นายพัลลภ เกิดมี อายุ 47 ปี 25หมู่ที่ 12 ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
ความเสียหาย ได้รับเงิน 1,900,000 บาท (แต่เป็นหนี้ 2,400,000บาท)
3.นายทองมี อนันทะวัน อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 5 ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ความเสียหาย ได้รับเงิน 750,000 บาท (หนี้ ธกส. 2,400,000 บาท)
4.นางราตรี วาจาสิทธิ์ บ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 12 เป็นหนี้โดยไม่ได้ก่อ 2,000,000 บาท
5.นส.พิมานมาศ เกิดมี 172 หมู่ที่ 8 เป็นหนี้โดยไม่ได้ก่อ 998,000 บาท
6.นส.นิตยา สีทะ หมู่ที่ 12 เป็นหนี้โดยไม่ได้ก่อ 620,000 บาท
7.นางนาง พันมูล 116 หมู่ที่ 12 เป็นหนี้โดยไม่ได้ก่อ 1,400,000 บาทเจ้าหน้าที่ได้แอบอ้างดำเนินการโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ธนาคารขอเอาเงินผ่านบัญชี เพื่อน โอนเงินมาจำนวน 297,000 บาท แล้วให้ประชาชนไปถอนเงินจากตู้ ATM มอบให้พนักงานคนดังกล่าว รวม 1,485,000 บาท
8.นายสมร เกิดมี 172 หมู่ที่ 8 เป็นหนี้ไม่ได้ก่อ 297,000 บาท
9.นางเข็มพร เกิดมี 127 หมู่ที่ 8 เป็นหนี้ไม่ได้ก่อ 297,000 บาท
10.นายชาตรี เกิดมี 172 หมู่ที่ 8 เป็นหนี้ไม่ได้ก่อ 297,000 บาท
11.นายอุทัย สิงห์ชาติ 17/2 หมู่ที่ 1 เป็นหนี้ไม่ได้ก่อ 297,000บาท
12.นส.ชมภูนุช พลสว่าง หมู่ที่ 8 เป็นหนี้ไม่ได้ก่อ 297,000บาท