ขอนแก่น (ชมคลิป) ประธานสโมสร “ขอนแก่นยูไนเต็ด” ล้มแชมป์ 6 สมัย ทิ้งห่างคู่แข่ง สี่หมื่นกว่าคะแนน

ประธานสโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด ได้รับความไว้วางใจจากชาวขอนแก่น คว้าคะแนนเสียงเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ล้มแชมป์เก่าที่นั่งเก้าอี้มานาน สมัย 24 ปี

          4 พ.ย. 67 การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ได้ยื่นในลาออกทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 3 พ.ย. 67 ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่า นายวัฒนา ช่างเหล่า อายุ 43 ปี หมายเลข 1 ประธานสโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด ได้รับการเลือกตั้งเป้นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นคนใหม่ ด้วยคะแนน 330,922 คะแนน ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ หมายเลข 2 อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ที่เคยเป็นนายกมาถึง 6 สมัย หรือ 28 ปี ได้คะแนน 289,908 คะแนน ส่วนนายโตบูรพา สิมมาพัน หมายเลข 3 ได้คะแนน 42,431 คะแนน

              โดยมีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1,436,069 คน ซึ่งมาใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 722,158 คน คิดเป็นร้อยละ 50.29 มีบัตรเสียทั้งหมด 25,558 คิดเป็นร้อยละ 3.54 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนทั้งสิ้น 33,339 คิดเป็นร้อยละ 4.62 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทาง อบจ.ขอนแก่นได้มีการติดผลการนับคะแนนแต่ละอำเภออยู่ที่ลานจอดรถหน้าหอประชุม อบจ.ขอนแก่น และจะมีการส่งผลการนับคะแนนทั้งหมดไปยัง กกต.ขอนแก่น เพื่อประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ และจะมีการประกาศรับรองให้ นาย วัฒนา ช่างเหลา เป็นนายก อบจ.ขอนแก่น ภายใน 30 วัน ในกรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน หรือภายใน 60 วันกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนต่อไป

                 นายวัฒนา ช่างเหลา ว่าที่ นายก อบจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ผมในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย ซึ่งทุกนโยบายที่ได้ประกาศไว้จะทำทันที ไม่มีวันหยุดและไม่มีวันเหนื่อย นายก อบจ.ขอนแก่น จะลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนครบทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดเพราะจากการลงพื้นที่ในการหาเสียงแม้จะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนักแต่ตนเองและทีมงานมีความตั้งใจจริง มีความมุ่งมั่นตั้งใจและลงพื้นที่ครบทั้ง 26 อำเภอแม้จะไปไม่ครบทุกหมู่บ้านแต่ก็มีทีมงานไปในทุกพื้นที่ เพราะเราทำงานเป็นทีม ทุกคนบอกว่า อบจ.คือพี่ใหญ่ของวงการท้องถิ่น คำนี้เป็นข้อพิสูจน์ให้กับผมและคณะทำงานอย่างมาก เพราะทุกคะแนนที่มอบให้ เป็นความมุ่งมั่นที่ทุกคนจะพร้อมที่จะมาร่วมเปลี่ยนจังหวัดไปด้วยกัน

                 ที่ผ่านมาการทำงานแบบเดิมของ อบจ.เป็นแบบใด ทุกท่านทราบกันอยู่แล้ว ภาพจำเดิมๆที่เคยมี มาในยุคผมไม่มีแน่นอน นายก อบจ.ต้องเข้าถึงง่าย รับฟังทุกปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนและจะต้องตรงจุด อบจ.จะทำงานร่วมกันกับ เทศบาล และ อบต.ทุกแห่งอย่างเข้าใจ  เพราะเรารู้ว่าท้องถิ่นนั้นติดขัดเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกันกับการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะครอบคลุมในทุกมิติขณะที่9 นโยบายที่ใช้ในการหาเสียงก็จะทำทันทีเช่นกัน.