เลขา มท.2 ควงคู่คณะทำงาน มรต.เกษตรและสหกรณ์ นำเครื่องจักหนักซ่อมถนนลำเลียงการเกษตรชาวบ้าน 2 อำเภอ หลังมวลน้ำฝนจำนวนมากไหลบ่าท่วมพื้นที่การเกษตร สร้างความเสียหายกับผลผลิตอ้อยมัน
วันที่ 4 ก.ย. 2567 ที่บริเวณพื้นที่การเกษตรรอยต่อ ตำบลบ้านขาม อ.น้ำพอง และ ตำบลบ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น นายวัฒนา ช่างเหลา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพงศกรณ์ เสาร์ทน คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเครื่องจักรหนัก รถแบคโฮ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมและพัดพาพืชผลทางการเกษตรทำให้ถนนเชื่อมต่อระหว่าง 2 ตำบล ได้รับความเสียหาย
โดยจากกรณีปัญหาน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนระหว่างหมู่บ้านสายบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 13 ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไปยังหมู่บ้านโนน ต.บ้านโนน อ. ซำสูง จ.ขอนแก่น จำนวน 2 จุด ทำให้มวลน้ำพัดพาทรายเข้ามาปกคลุมในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งภายหลังจากทางจังหวัดทราบได้ทำการสำรวจตรวจสอบและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยจะมีการชดเชยพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย แบ่งเป็นพื้นที่นาข้าว ชดเชยให้ไร่ละ 1,340 บาทต่อไร่ และพื้นที่ปลูกอ้อยกับมันสำปะหลัง ชดเชยให้ไร่ละ 1,980 บาทต่อไร่ โดยชดเชยให้ไม่เกิน 30 ไร่ต่อคน ซึ่งจะมีการจ่ายเงินชดเชยภายในเดือนกันยายนนี้
นายวัฒนา ช่างเหลา เลขานุการ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้ทราบถึงความเสียหายของถนนลำเลียงการเกษตร ขาดไปหลายจุด ได้มีการประสานงานกับแขวงการทางขอนแก่นขอความอนุเคราะห์ท่อคอนกรีตเพื่อนำมาวางให้น้ำไหลลอดถนนได้ พร้อมได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจาก คณะทำงาน รมต.เกษตรฯ นำมาซ่อมถนนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยแผนอนาคตในข้างหน้าที่ได้มีการประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ตั้งงบประมาณในการก่อสร้างถนนในพื้นที่นี้ ทั้งนี้สภาพพื้นที่มีการเปลี่ยนไปจะต้องมีการแก้ไขรูปแบบในการก่อสร้าง บางจุดที่มีน้ำไหลผ่าจะต้องวางท่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน นายพงศกรณ์ เสาร์ทน คณะทำงาน รมต.เกษตรฯ กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้นำรถแบ็คโฮ พร้อมรถไถเกรดดิน เข้าถมและปรับสภาพสภาพถนนที่ขาด จำนวน 2 จุดในเบื้องต้น ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ส่วนจุดถนนที่ถูกน้ำเซาะขาดยาวกว่า 4 เมตร ลึก 10 เมตร ต้องมีการวางท่อใหม่ ที่มีความกว้างและยาวกว่าเดิม เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดน้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวก่อน คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานประมาณ 3-4 วัน จึงจะแล้วเสร็จ โดยได้ทำการประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการก่อสร้างแบบถาวร
อีกอย่างพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ตำบล 2 อำเภอ จะต้องมีการทำข้อตกลงร่วมกันกับประชาชนทั้ง2 พื้นที่ โดยการทำประชาพิจารณ์ในการดำเนินการสร้างที่พักชะลอน้ำ และการสร้างทางน้ำไหลร่วมกัน โดยที่ผ่านมาตนเองได้เข้ามาซ่อมแซมในทุก ๆ ปี และประสบปัญหาางขาดจากน้ำพัดทุกปี จึงจะต้องมีการจัดระเบียบโดยการประสานชาวบ้านทั้งสองตำบลเป็นการสร้างถนนถาวรต่อไปอีกด้วย
ซ่อมถนนลำเลียงการเกษตรชาวบ้าน 2 อำเภอ