เลย (ชมคลิป) กระทรวงยุติธรรม เปิด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”ครั้งที่ 65

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 27 สิงหาคม 2567 โรงแรมเลยพาเลซ ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”ครั้งที่ 65 จังหวัดเลย โดยมี นายอนุพงศ์ คำภูแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นางดารุณี ชัยวรรณา ยุติธรรมจังหวัดเลย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมทั้งส่วนกลาง และระดับจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารภาคีเครือข่าวสถาบันการเงิน และประชาชนเข้าร่วมงาน


นางดารุณี ชัยวรรณา ยุติธรรมจังหวัดเลยกล่าวรายงานว่า ตามนโยบายรัฐบาล ได้เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการอย่างชัดเจนและบูรณาการ การทำงานของทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก โดยกำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาที่จะเร่งดำเนินการ ลดภาระพี่น้องเกษตรกร ด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไข และคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประคองภาระหนี้สิน และต้นทุนทางการเงิน สำหรับภาคประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้มีโอกาส ในการฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง กระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ดำเนินการจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม”ครั้งที่ 65 จังหวัดเลย โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย (1)กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) (2)ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย (3)ธนาคารออมสิน (4) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (5) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร


โดยงาน ในวันนี้ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ 1) การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายและการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน 2) การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงินจำนวน 12 หน่วยงาน
3) การให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยเชิญชวนลูกหนี้ จำนวน 765 ราย โดยแยกเป็นลูกหนี้ก่อนฟ้องจำนวน 432 ราย และลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา จำนวน 333 ราย รวมทุนทรัพย์ทั้งสินจำนวน กว่า 102,000,000 บาท


พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ได้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยการเงินและไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรมของผู้มีภาระหนี้ โดยเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างความตระหนักรู้และเลือกใช้การไกล่เกลี่ยระงับพิพาท ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจเกิดควาวมยุติธรรมทุกฝ่าย และให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อ ส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้องหรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึงขบวนการยุติธรรม ด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน และเป็นเกาะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป


นางดารุณี ชัยวรรณา ยุติธรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล ได้เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ได้กำหนดแนวทาง ในการดำเนินการอย่างชัดเจนและบูรณาการ การทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก ตลอดจนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ได้แถลงไว้ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 กำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาที่จะเร่งดำเนินการ ลดภาระพี่น้องเกษตรกร ด้วยการพักหนี้เกษตรกรตามเงื่อนไข และคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประคองภาระหนี้สิน และต้นทุนทางการเงิน สำหรับภาคประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้มีโอกาส ในการฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง


ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ดำเนินการจัดงาน โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2. ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเลย 3. ธนาคารออมสิน 4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายและการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน และจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงินจำนวน 12 หน่วยงาน พร้อมการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยเชิญชวนลูกหนี้ จำนวน 765 ราย โดยแยกเป็นลูกหนี้ก่อนฟ้องจำนวน 432 ราย และลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา จำนวน 333 ราย รวมทุนทรัพย์ทั้งสินจำนวน กว่า 102,000,000 บาท

ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / จ.เลย