นายชาญณรงค์ จันทมงคล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำการแทน ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือการปรับการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เผยว่า ตามที่ ร่องมรสุมได้พาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้มีฝนตกหนาแน่นจนทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 เท่ากับ 600 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนที่มากเกินกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเกือบ 3 เท่า ส่งผลให้ระดับน้ำในเชื่อนอุบลรัตน์มีแนวโน้มเพิ่ม
สูงขึ้นมากกว่าเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำตอนบน (Upper Rule Curve) ซึ่งในคราวประชุมกองบัญชาการเหตุการณ์จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 จึงมีมติให้ กฟผ. ปรับการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เป็น 20 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 26 กวกฎาคม 2567 เป็นต้นมา
วันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 08.00 น. เขื่อนอุบลรัตน์มีระดับเก็บกัก +175.99 ม.รทก. ปริมาตรน้ำเก็บกัก 746.45 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 30.70 ปริมาณน้ำไหลเข้า 6.37 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบาย 20.002 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีก 1,684.85 ล้าน ลบ.ม. และจะจากการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำชี ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการฯ มีมติให้เขื่อนอุบลรัตน์ ระบายน้ำ 20 – 22 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และให้รักษาระดับน้ำตามเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำตอนล่าง (Lower Rule Curve) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและพื้นที่ว่างของอ่างฯให้เหมาะสมที่จะรองรับบริมาณฝนซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกหนักจนอาจเกิดน้ำหลากได้ในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม
ในการนี้ กฟผ. จักได้ดำเนินการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 22 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 และบริหารจัดการน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการลุ่มมน้ำชี ต่อไป โดยปริมาณการระบายน้ำดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนแต่อย่างใด (ความจุลำน้ำพองด้านท้ายเขื่อน 34 ล้าน ลบ.ม. หรืออัตราการไหล 400 ลบ.ม.ต่อวินาที) ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์นำเขื่อนอุบลรัตน์ ได้ที่เว็บไซด์ http://nehcc-inter.egat.co.th, http//water.egat.co.th หรือติดต่อสอบถาม โทร. 043 446392 และ 06 1396 8337 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
