ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 4กรกฎาคม 67 วัดป่าสันติธรรม (วัดป่าห้วยเดื่อ) บ้านห้วยเดื่อ ต.หนองหิน จ.เลย เมื่อเวลา 09.51 น.ได้รับแจ้งจาก พระทินวโร พระอุปัฏฐาก ประจำองค์หลวงพ่อขันตี ญาณวโร เกจิอาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ กุฏิวัดป่าห้วยเดื่อ สิริอายุ 81 ปี 61 พรรษา
สำหรับประวัติ หลวงพ่อขันตี ญาณวโร หลวงพ่อขันตี เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2486 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีมะแม เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสันติธรรม (วัดป่าห้วยเดื่อ) บ้านห้วยเดื่อ ต.หนองหิน จ.เลย
หลวงพ่อขันตี เกิด ที่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 8 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ของแก่น (ปัจจุบันคือ บ้านหนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น) โยมบิดาชื่อ นายชัย แสนคำ โยมมารดาชื่อ นางแพง แสนคำ มีพี่น้องร่วมบิดา มารดาทั้งหมด 7 คน โดยหลวงพ่อขันตี ญาณวโร เป็นลูกคนโต หลวงพ่อทวี ปุญฺญปญฺโญ เป็นลูกคนเล็กสุด(ชื่อเดิมนายทวี แสนคำ)
ในวัยเด็กของหลวงพ่อขันตี เป็นคนขยันขันแข็ง ช่วยงานพ่อแม่ทำไร่ ทำนาและดูแลน้องๆ แทนพ่อแม่อยู่เสมอ มีความอดทน อ่อนน้อม ในวัยเด็กยังเป็นคนสนใจ ใฝ่ธรรมะ ชอบไหว้พระสวดมนต์อยู่เป็นประจำ หลวงพ่อขันตีท่านกล่าวว่า “สมัยตอนท่านเด็กๆท่านเป็นคนไม่ค่อยแข็งแรงนัก เจ็บป่วยออดๆแอดๆ อยู่เสมอบางทีก็เกือบถึงแก่ชีวิตหลายต่อหลายครั้ง โยมแม่ของหลวงพ่อ จึงได้ไปฝากให้หลวงพ่อขันตีเป็นลูกบุญธรรมหลวงปู่คำดี ปภาโส อาการเจ็บป่วยต่างๆก็ค่อยๆหายไป” เมื่อหลวงพ่อเรียนจบชั้น ป.4 ก็ขออนุญาตโยมพ่อโยมแม่เพื่อขอบวชสามเณร โยมพ่อแม่ก็เห็นดีด้วยและอนุญาตให้หลวงพ่อบวชเณรได้ชื่อ สามเณรขันตี
หลวงพ่อขันตีได้บวชเณรครั้งแรกเมื่ออายุ 12 ปี ในปี พ.ศ.2499 ณ วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีท่านพระครูพิศาลสารคุณ เป็นผู้บรรพชาให้ เมื่อบวชเณรแล้วหลวงพ่อขันตีก็อยู่ดูแลอุปัฏฐาก ท่านพระครูเจ้าอาวาสอย่างใกล้ชิตและมีความขยันอดทนหมั่นเพียรในการศึกษาธรรมะ ท่านพระครูพิศาลสารคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ จึงได้เรียกชื่อหลวงพ่อขันตีใหม่ จากเดิมชื่อตีเฉยๆ เรียกใหม่ว่า “ขันตี” หรือ ขันติ แปลว่าผู้มีความอดทน
จนมีอายุครบบวชพระ อายุ 20 ปี จึงได้รับการอุปสมทบในวันอังคาร ขึ้น8ค่ำ ปีมะโรง โดยได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2507 ณ พัทธสีมาวัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีท่านพระ ครูพิศาลสารคุณเป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูศรีธรรมาลังการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า “ญาณวโร” แปลว่า ผู้ปรีชาหยั่งรู้สูง
เมื่ออุปสมบทได้ 1 ปี พ.ศ.2508 ท่านได้ติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับ “หลวงปู่คำดี ปภาโส” ที่วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต่อมาย้ายไปพำนักจำพรรษาและอุปัฏฐากดูแล “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่วัดป่าโคกมน เนื่องจากในขณะนั้นหลวงปู่ชอบป่วยเป็นอัมพาต
สำหรับวัดป่าม่วงไข่ ตั้งอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย วัดนี้เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ได้ตั้งมานานแล้ว โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านได้มาทำไว้ เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการบำเพ็ญภาวนาปฏิบัติธรรม ครั้งหนึ่งได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเข้ามาในบริเวณที่ตั้งกุฏิไม้ไผ่แห่งนี้ แต่ไฟไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด
ทุกวันนี้ วัดป่าม่วงไข่ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้ายที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร แต่เดิมการเดินทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ ต้องเดินเท้าเข้าไป โดยเฉพาะหน้าฝนลำบากมาก แต่ปัจจุบันเส้นทางคมนาคมสะดวกสบาย การเดินทางสะดวกราบรื่น โดยรอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ ตั้งแต่ครั้งยุคของหลวงปู่ชอบเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงยุคหลวงพ่อขันตี ด้วยมีทิวทัศน์บรรยากาศที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติสืบต่อไป
หลวงพ่อขันตี ญาณวโร ได้อนุรักษ์สิ่งของอัฐบริขารและเสนาสนะต่างๆ ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เอาไว้ เช่น กุฏิพักหลวงปู่ชอบ โดยเฉพาะกุฏิไม้ไผ่ที่ปลูกอยู่ติดกับต้นมะม่วงป่า มะม่วงป่านั้นมีลูกเล็กๆ สีเหลืองเท่ากับไข่ไก่พื้นบ้าน ต้นใหญ่ประมาณ 2-3 คนโอบ เป็นที่เดินจงกรมและนั่งปฏิบัติธรรมหลวงปู่ชอบ
ในส่วนของหลวงพ่อขันตี ท่านยึดถือในแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ชอบ ผู้เป็นพระอาจารย์ ด้วยการนั่งปฏิบัติธรรมพร้อมด้วยพระลูกวัดมาโดยตลอด นับเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง แม้จะไม่เปิดตัวมากนักก็ตาม
เพจเฟซบุ๊กได้แจ้งกำหนดการพิธีสรงน้ำสรีรสังขาร หลวงพ่อขันตี ญาณวโร ณ วัดป่าห้วยเดื่อ อ.หนองหิน จ.เลย วันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 น.จึงแจ้งคณะศิษยานุศิษย์ทุกท่าน
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / จ.เลย