ร้อยเอ็ด – สมาคมพิโกไฟแนนซ์จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับนโบบายกระทรวงการคลัง และการให้สินเชื่อจากธนาคารออมสิน

ที่อาคารวิสาหกิจชุมชนพัฒนาพืชสมุนไพร จิตเจตสิก โรงแรมลิลลี่รีสอร์ท ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต นายกสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย เป็นประธานเปิดการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1 / 2567 โดยมีนายขจิต เสรีรัตน์ ที่ปรึกษาสมาคมฯ นายไชยวัฒน์ อึงสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสินเชื่อ ร่วมเป็นวิทยากร ซึ่งมีผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์จากจังหวัดต่างๆ เข้าร่วมประชุมกว่า50 ราย

นายสมเกียรติ จตุราบัณฑิต กล่าวว่า ตามที่สมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย จัดประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567ในวันนี้มี 2 ประเด็นหลักๆ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบการพิโกฯคือ เรื่องที่กระทรวงการคลังจะมีนโยบายที่ยังไม่เป็นทางการให้ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ให้ปล่อยสินเชื่อนอกจากพื้นที่จังหวัดที่มีแนวเขตติดต่อกันได้ และเรื่องที่ธนาคารออมสินจะให้สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฏหมายไทย มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ จากกระทรวงการคลัง พร้อมใบรับรองจากสมาคมพิโกไฟแนนซ์


สำหรับเรื่องการอนุญาตให้ผู้ประกอบการปล่อยสินเขื่อนอกพื้นที่จังหวัดได้หรือไม่นั้น มติที่ประชุมมีความเห็นว่า ควรจะอนุญาตให้บางอำเภอที่มีแนวเขตติดต่อกันเท่านั้น เพราะถ้าหากอนุญาตให้พื้นที่ติดต่อกันได้ทั้งจังหวัด อาจจะเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ สามารถที่จะเข้ามาบุกตลาด ของผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์มีศักยภาพที่อ่อนแอลง และคาดว่าขณะนี้มีกลุ่มทุนใหญ่หลายบริษัทกำลังวางแผนเข้ามาบุกตลาด แข่งกับผู้ประกอยการพืโกไฟแนนซ์อยู่

ส่วนเรื่องธนาคารออมสิน มีแผนจะให้สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนแก่ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ระยะการกู้เงิน 5 ปี และไม่คิดค่าดำเนินการ ทำให้ผู้ประกอบการพิโกไฟแนนซ์ สนใจเป็นจำนวนมาก ในการแก้ไขปัญหาภาระดอกเบี้ย และหนี้สินของประชาชน จากการกู้ยืมเงินอกระบบ ประเภทเงินกู้ระยะยาว(L/T) ให้กู้ตามความจำเป็น และความสามารถชำระหนี้ของกิจการ ทั้งนี้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน50 ล้านบาท รวมทุกธุรกิจที่อยู่ในเครือเดียวกัน

กรณีเป็นลูกหนี้เดิม ผู้ประกอบการต้องจัดส่งรายงานลูกหนี้และสัญญานั้นกู้ ที่ระบุอัตราดอกเบี้ยลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของอัตราคอกเบี้ยเติมที่ลูกหนี้เคยได้รับ มาประกอบการเบิกจ่ายเงินกู้ กรณีลูกหนี้ใหม่ ผู้ประกอบการต้องจัดส่งรายงานลูกหนี้และสัญญาเงินกู้ที่ระบุอัตราดอกเบี้ยลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของเกณฑ์อัตราดอกเบี้ยเดิมที่ลูกหนี้ใหม่จะได้รับมาประกอบการเบิกจ่ายเงินกู้ให้เบิกจ่ายเงินกู้ในสัดส่วนไม่เกิน 100% ของยอดปล่อยสินเชื่อตามสัญญาเงิน เบิกจ่ายเงินกู้ทั้งจำนวน หรือทยอยเบิกเงินกู้ได้ ภายในระยะเวลา 12 เดือน นับจากวันที่
ลงนามในนิติกรรมสัญญาไม่เกิน 5 ปี

ทางสมาคมหวังว่า ผู้ประกอบการพิโก้ไฟแนนซ์ในพื้นที่ต่างๆต้องมีความสามัคคี มีความเข้มแข็ง มีการปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมพื้นที่ ตลอดจนพื้นที่ที่เป็นแนวเขตติดต่อกัน เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง ในอัตราดอกเบี้ยตามที่กฏหมายกำหนด เพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแก่ประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

วินัย วงศ์วีระขันธ์ /ร้อยเอ็ด