กองฟอนแยกสรีระธาตุหลวงตาลิน พระผู้มีแต่ให้ ถูกเตรียมไว้ก่อนละสังขาร ขอเจริญรอยตามพระพุทธทาส ภิกขุ ผู้เป็นต้นแบบของการดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายในเพศสมณะ เจ้าคณะอำเภอโนนสังพระผู้มีพรรษามากในที่ชุมนุมสงฆ์เป็นผู้พิจารณาบังสุกุล ตามข้อสั่งการของหลวงตา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 20 กค.67 เป็นต้นมา ตามข้อสั่งการที่เร่งด่วนแต่เรียบง่ายแบบโบราณประเพณีที่ต้องดำเนินการเผาร่างของพระครูวิมลธรรมากร(หลวงตาลิน) อดีต เจ้าคณะอำเภอโนนสัง และ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม เกจิชื่อดังชาวหนองบัวลำภู โดยภายในวัดศรีบุญเรืองบุตราราม บ้านหนองเหมือดแอ่ ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู พุทธบริษัท 4 ที่ทราบข่าวหลวงตาลิน ละสังขาร ต่างมุ่งหน้าเดินทางมากราบสรีระหลวงตาลิน(พระครูวิมลธรรมากร)อายุ 74 ปี 54 พรรษา เกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ศรัทธาในจริยวัตรและวิทยาคม บนศาลาการเปรียญวัดศรีบุญเรืองบุตราราม ที่ละสังขารเมื่อเวลา 01.38 น.วันที่ 20 กค.67โดยหลวงตาสั่งไว้ต้องเผาร่างบนกองฟอนภายใน 24 ชั่วโมง
เป็นเรื่องที่น่าแปลกและอัศจรรย์ใจอีกอย่างบริเวณกองฟอน(เมรุชั่วคราว)ที่เตรียมไว้สำหรับเผาสรีระหลวงตาถูกจัดทำขึ้นบริเวณด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงตาลิน และธาตุเจดีย์ที่จะบรรจุอัฐิธาตุหลวงตาถูกจัดไว้บนอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงตาทุกอย่างได้มีการเตรียมการไว้ก่อนนี้ไม่กี่วันตามบันทึกข้อสังการเสมือนพินัยกรรมที่กำหนดไว้ก่อนหลวงตาจะละสังขาร ขณะที่หลวงตายังมีสติสัมปชัญญะในช่วงอาพาธเสมือนทุกอย่างถูกเตรียมการไว้และพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเรียบง่ายภายใน 24 ชั่วโมงไม่ต้องตกเป็นภาระยุ่งยากแก่ใครทั้งสิ้น ขณะที่ลูกศิษย์หลวงตาลิน แต่ละคนถูกแบ่งหน้าที่ทำงานแบบรวดเร็ว โดยก่อนที่จะถึงการนำสรีระหลวงตาทุกอย่างดำเนินงานที่ไหลเลื่อนไปเรื่อยๆโดยไม่กำหนดเวลา
จนเมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ณ กองฟอน(เมรุชั่วคราว)หน้าอาคารพิพิธภัณฑ์หลวงตาลิน ภายในวัดศรีบุญเรืองบุตราราม โดยรอบๆศาลาการเปรียญมีพระภิกษุสงฆ์สามเณร ร่วม 200 รูป อุบาสกอุบาสิกาสวมชุดขาวพร้อมเสื่อรองนั่งรอร่วมส่งวิญญาณหลวงตาลิน ขณะที่มีพระเถระผู้ใหญ่ทั้งในจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย พระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู พระอุดมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น รวมถึงสหธรรมมิกต่างจังหวัด นายอำเภอโนนสัง หัวหน้าส่วนราชการ และศิษยานุศิษย์มากมาย มาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง และมีฤาษีเกษแก้ว พุทธธรรมสถานบ้านโคกกุง ต.บ้านขาม อ.เมืองหนองบัวลำภู เป็นกำลังสำคัญในการประกอบพิธีตั้งต้น
จนได้เวลาสมควรพระภิกษุสงฆ์ร่วมกันเคลื่อนสรีระหลวงตาลิน ลงจากศาลาการเปรียญ ไปยังเมรุชั่วคราว(สู่กองฟอน)ประมาณ 30 เมตร ซึ่งประกอบด้วยไม้มงคลเนื้อแข็งตัดเป็นท่อนขนาดยาว 2 เมตรเรียงช้อนกันเป็นกอง ก่อนนำสรีระหลวงตาลิน เวียนรอบกองฟอนและนำสรีระหลวงตาลินขึ้นบนกองฟอน พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 75 รูปพิจารณาผ้าบังสุกุล หลังจากนั้นพระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ถวายผ้าบังสุกุลเป็นรูปสุดท้าย เจ้าคณะอำเภอโนนสัง ผู้มีพรรษามากเป็นผู้พิจารณาบังสุกุล โดย ฤาษีเกษแก้วได้นำพุทธศาสนิกชนกล่าวขอขมาหลวงตาเป็นวาระสุดท้าย หลังจากไฟถูกจุดขึ้นพร้อมเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงแยกสรีระเป็นธาตุ 4 (ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ)ตามหลักสัจจธรรม
พระครูวิมลธรรมากร หรือหลวงลิน อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรืองบุตราราม เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ประกอบคุณงามความดีในทางพระพุทธศาสนาได้รับโล่เสาเสมาธรรมจักร ก่อนที่หลวงลินจะได้ขอสละตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอโนนสัง เนื่องจากสุขภาพร่างกาย ในขณะที่อยู่ในเพศบรรพชิต หลวงตาลิน เป็นพระที่มีวิทยาคมลูกหลานชาวบ้านจะมาขอรดน้ำมนต์ เจิมรถยนต์และร่วมพิธีกรรมนั่งปรกในพิธีปลุกเศกเครื่องรางของขลังมากมาย ซึ่งมีลูกศิษย์ขอสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญในหลายรูปแบบ
โดยวัตถุมงคลของหลวงตาลินไม่ได้เป็นไปเพื่อพุทธพาณิชย์ แต่เป็นไปเพื่อการระดมทุนในการสร้างสาธารณกุศลทั้งสิ้น ล่าสุดหลวงตาลิน ร่วมกับ ฤาษีเกษแก้ว และพ่อค้าคหบดี ประชาชนทั่วไป ร่วมกันจัดตั้งผ้าป่าสามัคคีเพื่อร่วมระดมทุนนำรายได้ไปใช้ในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลโนนสังมูลค่า 26 ล้านกว่าให้แล้วเสร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ นอกจากนั้นหลวงตาลิน ยังทำนุบำรุงศาสนสถาน วัดวาอาราม สถานศึกษาในจังหวัดหนองบัวลำภู ตลอดจนช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในวาระสำคัญๆมากมาย
ในขณะที่ พระปลัดวรพจน์ อินุทปญฺโญ (อาจารย์เอก) พระอุปัฏฐากหลวงตาลิน กล่าวว่าก่อนที่หลวงตาจะละสังขารทุกอย่างได้มีการเตรียมการและสั่งการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราได้ทราบกันว่าก่อนหน้านั้นหลวงตามีฐานานุกรม ตำแหน่งสำคัญๆในทางพระพุทธศาสนา หลวงตาบอกไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เกิดขึ้นตั้งอยู่แบบเรียบง่าย การที่ท่านได้สรีระสังขารในวันนี้ทำอย่างเรียบง่ายและให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ขอให้คณะลูกศิษย์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการทำงาน และก็ไม่ต้องประดับประดาให้เกิดความสวยงามทั้งสิ้น
อันนี้คือกำลังจะแสดงให้พวกเรารู้ว่าชีวิตเป็นของเรียบง่าย หลวงตาลินท่านจำแบบอย่างตามครูบาอาจารย์ นั้นคือท่านเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธทาส ภิกขุ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสิ่งที่ท่านนำเอาแบบอย่างที่ไม่ได้ต่างจากครูอาจารย์กับลูกศิษย์ นี่อาตมากำลังจะบอกว่าสิ่งที่หลวงตาลิน สั่งไว้เป็นการแสดงธรรมสุดท้ายของหลวงตา ไม่ต้องใช้คำพูด แต่ให้ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง พระอาจารย์เอกฯศิษย์ผู้ใกล้ชิดเล่าสู่ฟัง
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู 0859190325
