เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 4 บ้านแสงอรุณ ต.บุญทัน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านของ นายบุญโฮม จันทร์ทะปะแดง อายุ 73 ปี เจ้าของสวนเงาะโรงเรียนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ปลูกต้นเงาะไว้ประมาณ 200 กว่าต้นและสวนทุเรียน ซึ่งในช่วงนี้ในแต่ละวัน ตั้งแต่ต้นเดือน มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา ทางครอบครัวจะต้องทำการเก็บเงาะมาตัดเตรียมรอพ่อค้าคนกลางมารับไปจำหน่ายถึงที่ไม่มีปัญหาเรื่องการตลาด ขายในราคา กิโลกรัมละ 25 บาท ขายปลีก 3 กิโลกรัม 100 บาท พร้อมทั้งเปิดให้นักท่องเที่ยว ผู้สนใจการปลูกเงาะบนผืนดินที่ราบสูงของอีสาน สามารถทำได้ ให้ผลิตดี มีรสชาติหวานกรอบอร่อยไม่เป็นน้ำ
เจ้าของสวนบอกว่า นอกจากตนเอง ครอบครัวแล้ว ยังมีหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยว ที่มาแวะเยี่ยมชม ชิมเงาะที่สวน ต่างพากันบอกว่า เงาะที่สวนของเราจะมีจุดเด่น คือ รสชาติหวานกรอบไม่มีน้ำแฉะ จึงถือว่าเป็นจุดเด่น เป็นที่ถูกใจของลูกค้า โดย ทางเจ้าของสวนบอกว่า ได้ทำการปลูกเงาะมาได้ประมาณ 23 ปี แล้ว และเงาะเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่อายุได้ 3 ปี จากนั้นก็เก็บผลผลิตขายมาได้ทุกปีเป็นประจำ ส่วนมากจะได้ประมาณ 20 ตันมีรายได้ประมาณ 500,000 บาทขึ้นไป แต่ปีนี้ ที่สวนได้รับผลกระทบ จากภาวะอากาศร้อนแล้งเป็นอย่างมาก ผลผลิตลดลงเป็นอย่างมาก คาดว่า น่าจะมีผลผลิตประมาณ 5 ตัน รายได้ปีนี้ก็คาดว่าจะได้ประมาณ 1 แสนกว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนั้น ทางเจ้าของสวนยังได้มีการนำเอาทุเรียนมาปลูกแซม ในสวนเงาะโรงเรียน ตอนนี้ก็จะเป็นพืชความหวังตัวใหม่อีก ขณะนี้อายุได้ 6 ปี เริ่มจับดอก ติดผลให้เป็นความหวังแล้ว ซึ่งสภาพพื้นดินและอากาศของหมู่บ้าน สามารถปลูกเงาะ ปลูกทุเรียน ซึ่งเป็นพืชที่ชอบสภาพอากาศร้อนชื่น ปลูกกันในภาคตะวันออกและภาคใต้ แต่วันนี้ ผืนดินที่ราบสูงของภาคอีสาน ที่หนองบัวลำภู ก็สามารถปลูกเงาะ ทุเรียน และสามารถให้ผลผลิตได้คุณภาพเป็นอย่างดี ไม่แพ้ภาคตะวันออกและภาคใต้เช่นกัน
ทางด้าน นายวุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ นายก อบจ.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย ผอ.กองช่าง อบจ.หนองบัวลำภู ผอ.รพสต.ในพื้นที่ ได้พากันเดินทางไปให้กำลังใจเยี่ยมชมผลผลิตสวนเงาะกับเกษตรกร ก็ได้มีการเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชม ชิม เงาะสดๆ จากต้น ที่สวนเงาะของเกษตรกรที่เป็นต้นแบบ ที่ถือว่าเป็นคนหัวไวใจสู้กล้าเปลี่ยนแปลง
จากสภาพพื้นที่ เดิมที่แต่ก่อนชาวบ้านจะปลูกพวกพืชล้มลุกอย่างข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่ได้ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำการเกษตรเป็นไม้ผล และก็ทำให้ได้ผลผลิตที่คุ้มค่า ซึ่ง ทางด้านเจ้าของสวนบอกว่า ถ้าปีนี้ไม่กระทบแล้งผลผลิต ก็ไม่แพ้ภาคตะวันออก พืชเหล่านี้ก็ยังเป็นโอกาส เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกร ที่กำลังมองหาพืชตัวใหม่แทนพืชล้มลุก ในการทำการเกษตร ไม่ว่า จะเป็นเงาะ ทุเรียน ผืนดินที่ราบสูงของภาคอีสานก็สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ เป็นอย่างดี ซึ่งทางเจ้าของสวนบอกว่า ยินดีต้อนรับ ผู้ที่จะมาเยือนสวนในช่วงนี้ แต่ถ้าช้าถึงปลายเดือน ผลผลิตอาจจะหมดแล้ว
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ผสข.หนองบัวลำภู