หนองบัวลำภู – สหกรณ์ออมทรัพย์ครู คิ๊กอ๊อฟ เดินหน้าลุยแก้หนี้ภาระหนักให้เพื่อนครู

สหกรณ์ออมทรัพย์ครู คิ๊กอ๊อฟ เดินหน้าลุยแก้หนี้ภาระหนักให้เพื่อนครู ดึงสมาชิกถูกให้ออกคืนบ้าน หลังเก่า “โครงการอิ่มใจจับมือไปด้วยกัน” ลงดาบให้ออก จนท.ไม่นำหลักทรัพย์มาหักหนี้เผื่อสงสัยจะสูญ ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ลดภาระคนค้ำ คาดปีนี้ดึงหนี้เน่า 1,000 ล้าน คืนมาได้ 500 ล้าน

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรัตม์ พลบุรี ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัด พร้อมด้วย นายวิทวัส พัดไธสง กรรมการและเลขานุการ และคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 27 นางสาวทัศนีย์ กำไรทอง ผจก.สหกรณ์ออมทรัพย์ฯพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ หลังได้จากได้ เดินทางไปจัด เวทีแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจกับสมาชิกที่มีปัญหาหนี้ภาระหนัก 2567
ที่เป็นกลุ่มสมาชิกไม่สามารถจะส่งชำเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับ สมหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัดได้ ให้รอดพ้นวิกฤติกว่า 700 ราย โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกระบวนการช่วยเหลือพี่น้องสมาชิก เพื่อให้ข้าราชการครูให้กลับมา ชำระงวดหนี้ให้กับสหกรณ์ฯได้ซึ่งเป็นการผ่อนปรนภาระหนี้สินและบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิก ตามนโยบายของรัฐ ซึ่งได้ออกพบปะสมาชิกสัญจรไปตามพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่ 3 จุด 6 อำเภอ โดยเริ่มจากอำเภอเมือง อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอนากลาง ในช่วงระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายน 2567
โดยได้เปิดเผยว่า จากการที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัดได้จัดโครงการพิเศษแก้ไขหนี้สมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้ภาระหนัก พบว่า สมาชิกได้ให้ความสำคัญให้ความร่วมมือ เดินทางมาร่วมรับฟัง เข้าร่วมโครงการกันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการให้โอกาสกับ เพื่อนพี่น้องสมาชิกที่อยู่ในภาวาวะวิกฤติ ให้กลับมาส่งชำระหนี้ให้กับสหกรณ์ได้ ไม่เป็นภาระต่อเพื่อนสมาชิกที่ค้ำประกัน


โดย นายธีรัตม์ พลบุรี ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์หนองบัวลำภูฯ ได้หาแนวทางในการช่วยเหลือสมาชิกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ย ด้วยกู้ยืมสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกต่ำไปใช้หนี้สถาบันการเงินที่อัตราดอกเบี้ยสูง เร่งแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเพื่อนครูที่มีปัญหา
โดย สหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัด ได้จัดเวทีเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เข้าร่วมโครงการพิเศษแก้ไขหนี้สมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้ภาระหนัก พ.ศ. 2567 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อช่วยเหลือสมาชิกลูกหนี้ให้สามารถส่งชำระหนี้ได้ และมีเงินได้ราย เดือนเพียงพอในการดำรงชีพ ตลอดจนเป็นการแก้ปัญหาลูกหนี้เงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ให้มีความมั่นคงทั้งแก่สหกรณ์และสมาชิก เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียม เข้าร่วมโครงการแก้ปัญหาและเข้าร่วมโครงการตามระเบียบกำหนด และ ทำสัญญากู้รวมหนี้ต่อไป
จากปัญหาที่สหกรณ์ฯพบเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะหนี้ NPLเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีมากถึง 1,000 กว่าล้าน เมื่อมีหนี้ NPL มากก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ สหกรณ์ก็เลยมาจัดลำดับชั้นลูกหนี้ จัดชั้นหาวิธีการที่จะดำเนินการแก้ไข ปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือ ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้นำเอาหลักทรัพย์ที่สมาชิกนำมาค้ำประกันเงินกู้พิเศษ มาหักลบออกจากเงินกู้ที่เป็นหนี้เสีย ทำให้ยอดหนี้ที่สงสัยเผื่อจะสูญ ประจำปีบัญชีมียอดสูง โดยในหลักการแล้ว จะต้องนำเอาหลักทรัพย์ที่สมาชิกนำมาค้ำประกันเงินกู้ มาหักลบออกจากหนี้ที่เผื่อสงสัยว่าจะสูญของสมาชิกแต่ละราย แต่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งสหกรณ์จังหวัดหนองบัวลำภู มอบให้นายทะเบียนเข้ามาตรวจสอบ และเราก็มาหาข้อมูลจากการนำเอากระดาษทำการ มาตรวจสอบก็พบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ยกตัวอย่าง กรณีลักษณะดังกล่าว เช่น สมาชิกรายนั้น มีหนี้ 3 ล้าน มีหลักทรัพย์เป็นที่ดินที่นำมาค้ำประกันเป็นมูลค่า 1 ล้านบาท สมาชิกรายดังกล่าวไม่สามารถส่งชำระหนี้ได้ เวลานำมาคิดเป็นหนี้เผื่อสงสัยว่าจะสูญ จะต้องนำเอาหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท มาหักลบออจากยอดหนี้ 3 ล้านบาท จะทำให้เหลือหนี้เผื่อสงสัยว่าจะสูญ 2 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ไม่นำหลักทรัพย์มาหักลบออก แจ้งเป็นสมาชิกเป็นหนี้เผื่อสงสัยว่าจะสูญ 3 ล้านบาท ซึ่งพบว่าสมาชิกที่เจ้าหน้าที่ไม่นำมาหักลบ เท่าที่ตรวจพบตอนนี้มีถึง 82 สัญญา เป็นยอดเงิน 40 กว่าล้านบาท ซึ่งทางด้านคณะกรรมการก็ได้มีการลงโทษ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวให้ออกไปแล้ว
จากกรณีดังกล่าว ทำให้สมาชิกสหกรณ์เสียผลประโยชน์ที่ได้รับเงินปันผลในปีที่ผ่านมาลดไป และในปีงบประมาณดำเนินการที่จะถึงนี้ คาดว่า สหรกรณ์ออมทรัพย์ครูฯจะมีผลกำไรนำไปปันผลให้สมาชิกมากขึ้น จึงเป็นข่าวดีของสมาชิก และ ต่อจากนี้ไปคณะทำงานก็จะเอาแต่ละสัญญามาตรวจสอบ และออกไปพบเป็นรายบุคคลหรือเรียกมาพบเป็นรายบุคคลหาวิธีแก้ไข เมื่อเอาหลักทรัพย์มาตัดหนี้ก็จะทำให้เกิดสภาพคล่อง เมื่อเราแก้ปัญหาตรงนี้หนี้เสีย 1,000 กว่าล้านบาท นี้น่าจะแก้ได้ไม่ต่ำกว่า 50% ปีนี้น่าจะได้กำไรประมาณ 500 ล้าน
ปีนี้ขอให้สมาชิกมีความมั่นใจว่าสหกรณ์ฯเรามีความมีสภาพคล่องโดยใช้กลยุทธ์เอาดอกเบี้ยต่ำไปตัดดอกเบี้ยสูง และขอยืนยันกับสมาชิกทั้งหลายว่าสหกรณ์ของเราสภาพคล่องดีมาก ไม่ต้องห่วงไม่ต้องคิดว่าฝากเงินกับสหกรณ์จะไม่ได้คืนหรือสูญหายหุ้นเราจากเดิมมีเงินฝาก 700 ล้าน ตอนนี้เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท แล้ว
ทางด้าน นางนิตยา (ขอสงวนนามสกุล ) สมาชิกรายหนึ่งกล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีสำหรับสมาชิกที่เรารับภาระหนี้สินที่หนัก สมาชิกอยู่ได้ สหกรณ์เก็บเงินได้ สหกรณ์ก็จะไม่ได้เป็นหนี้เสียเยอะ สมาชิกที่เป็นหนี้เสียให้รีบมาติดต่อกับทางสหกรณ์ สมาชิกอยู่ได้ สหกรณ์ก็อยู่ได้ วันนี้จึงได้มาขอเข้าโครงการ จากที่เรารับสภาพหนี้หนักมาตลอด


ส่วนทางด้าน นายวิทวัส พัดไธสง กรรมการและเลขานุการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหนองบัวลำภู จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เป็นหนี้ที่ถูกลบกำไรของพวกเรา ในปี 2563 ที่พวกเราเจอวิกฤตก็คือไม่ได้เงินปันผลปี 2563 ปี 2564 เขาตั้งหนี้เสียไว้ 1,000 ล้านบาท หนี้ตัวนี้ทำให้กำไรของพวกเราลดลง มูลเหตุสำคัญก็คือเราชำระหนี้ไม่ได้ตามสัญญาบางคนถูกให้ออก พอปี 2563 ไม่ได้เงินปันผลปี 2564 บางคนถูกให้ออกจากการเป็นสมาชิกอีก
ปัจจุบันนี้รายชื่อทั้งหมดเราเอาขึ้นมาบนโต๊ะแล้ว ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ไม่เว้นประธานก็เป็นหนี้สหกรณ์ทั้งหมด พวกเราเป็นเจ้าของสหกรณ์ให้เข้าใจตรงกันเพราะฉะนั้นตั้งแต่ท่านประธานลงไปจนถึงสมาชิก จนถึงลูกหลานหากหนี้ไม่หมดใครรับผิดชอบ รวมถึงคนค้ำมันก็เลยเป็นโดมิโน่เป็นลูกโซ่ไม่มีที่สิ้นสุด จะล้มไปตามกัน
หากเกิดเหตุการณ์ เช่นนี้เมื่อสมาชิกเสียชีวิตแล้วทุกคนต้องแบกรับภาระหนี้ จากนี้ไปเมื่อสมาชิกที่ถูกให้ออกเราต้องเอากลับคืนมาบ้านเรา กลับมาบ้านเรา ทุกข์สุขยังไงก็เราก็ต้องดูแลกัน ลงทุนด้วยกันมีหุ้นด้วยกัน จึงได้เกิดโครงการที่จะทำให้สมาชิกมีเงินส่งได้ กับโครงการอิ่มใจจับมือไปด้วยกัน โครงการพิเศษแก้ไขหนี้สมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้ภาระหนัก พ.ศ. 2567 หรือ “โครงการอิ่มใจจับมือไปด้วยกัน”
เวลานี้เราได้ผู้จัดการมืออาชีพ เพราะข้อมูลต่างๆและอีกหลายเรื่องจะบอกได้ว่าปีนี้กำไร ตัวเลขมันจะโชว์เมื่อได้รับข้อมูลว่าโครงการนี้มันกระจายออกไปจะลดดอกเบี้ยให้พวกเรา และ มีสมาชิกถาม ว่าลูกค้าที่ดีทำไมไม่ลดดอกเบี้ยให้เขา ลูกค้าที่ทำให้สหกรณ์เสียหายทำไมต้องลดให้เขา สมาชิกกลุ่มนี้ เป็นเสมือนคนป่วยที่เขาเป็นมะเร็ง เพราะฉะนั้นการรักษาอาการดูแลสมาชิกมันก็จะต้องเป็นไปตาม บริบทปัญหาของแต่ละกลุ่ม ทำอย่างไรเมื่อสหกรณ์ไม่ได้มี โครงการอะไรรองรับ หากสมาชิกเสียชีวิต ภาระหนี้สิน ยังไม่หมดใครละจะเดือดร้อน ก็สมาชิก ผู้ค้ำประกัน ในโอกาสนี้ขอเชิญสมาชิกที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการเพื่อสวัสดิการของสมาชิกแล้ว รีบมาสมัครเข้าร่วมโครงการปลดหนี้เมื่อคุณเสียชีวิต

สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ภาพและข่าว เพ็ญนภา ทับซ้ายขวา รายงานจากจังหวัดหนองบัวลำภู