มุกดาหาร – เปิดยุทธการเด็ดปีกนักค้า ได้ยาบ้ากว่า2ล้านเม็ด อายัดทรัพย์สิน23ล้านบาท

ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร จัดแถลงการณ์ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ตามนโยบายในพื้นที่ที่มีความรุนแรง 25 จังหวัด ภายใต้โครงการยุทธการ เด็ดปีกนักค้ารายย่อย ประจำปีงบประมาณ 2567 พื้นที่จังหวัดมุกดาหาร สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 828 ราย ของกลาง ยาบ้า 2,575,864 เม็ด อายัดทรัพย์สิน 23,400,840 บาท

ที่บริเวณตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, นายบุญเรือง เมฆฉิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร, พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร, พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทรา รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ. สงกรานต์ สัณหกรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผกก.สืบสวน ภ. จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.พิทักษ์กุล เจริญกุล ผกก.ตม.จว. มุกดาหาร, นายภิญโญ โฆสิต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 พร้อมด้วย หน่วยงานบูรณาการในพื้นที่ ได้แถลงผลดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการปราบปรามนักค้ายาเสพติดรายย่อยและเครือข่ายยาเสพติดในพื้น โดยปฏิบัติการเชิงรุกปิดล้อมตรวจค้น จับกุมบุคคลตามหมายจับในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติด และดำเนินการ ยึดอายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทุกรายซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปราบปรามยาเสพติด ในสังกัดทั้ง 15 สถานี กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารร่วมหน่วยงานบูรณาการในพื้นที่ ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น จับกุมบุคคลตามหมายจับในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติด และดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทุกรายโดยการดำเนินการร่วมกับหน่วยบูรณาการในพื้นที่หน่วยได้รวบรวมผลการระดมและนำทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้

ในห้วงวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ถึง วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ดังนี้ผลการจับกุมทุกข้อหา จำนวน 808 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 828 คน รวมของกลาง ยาบ้า 2,575,864 เม็ด ดำเนินการตรวจยึด อายัดทรัพย์สินตาม พรบ.มาตรการ เงินสดจำนวน 1,602,743 บาท รถยนต์ จำนวน 25 คัน มูลค่า 18,954,000 บาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 29 คัน มูลค่า 1,200,500 บาท รายการอื่นๆ จำนวน 20 รายการ มูลค่า 1,643,597 บาท รวมตรวจยึดทั้งสิ้น 23,400,840 บาท
ขณะเดียวกัน กก.สส.ภ.จังหวัดมุกดาหารได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 600,000 เม็ด โดย ชุดสืบสวนขยายผล กก.สส.ภ.จังหวัดมุกดาหาร ได้รวบรวมพยานหลักฐานสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการในคดีนี้คือ นายอภิเชษฐ์ ทองมหา อายุ 37  ปี ที่อยู่ 151 หมู่ 2 ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดมุกดาหาร ข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ฯ ชุดสืบสวนได้ติดตามจนทราบว่านายอภิเชษฐ์ ทองมหา ใช้รถยนต์ทะเบียน กฉ 3272 นครพนม และนำป้ายทะเบียนถอดออกจากรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีเทา นำป้ายทะเบียนมาติดใส่รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นชีวิค สีขาว เพื่อลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขงไปส่งให้ลูกค้า

กระทั่งวันที่ 16 พ.ค. 67 เวลา 20.30 น. สายลับแจ้งว่า ขณะนี้ขบวนการของนายอภิเชษฐ์ ทองมหา ได้ใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ติดทะเบียน กฉ 3272 นครพนม ขนยาบ้าจำนวนมากออกไปส่งให้ลูกค้า เขต อ.หนองสูง จึงได้ประสาน สภ.หนองสูง ให้ตั้งจุดสกัดในพื้นที่ ส่วนชุดปฏิบัติการของ กก.สส.ภ.จังหวัดมุกดาหาร ได้ติดตามไปจนกระทั่งถึง บริเวณถนนบ้านหนองแต้ ต.หนองสูงเหนือ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร เมื่อรถยนต์ทะเบียน กฉ 3272 นครพนม เห็นจุดสกัดของตำรวจได้พยายามขับหลบหนีจนเกิดเหตุชนกับรถยนต์ตราโล่ของ สภ.หนองสูง ได้รับความเสียหาย เมื่อรถหยุดแล้วตรวจสอบในรถพบนาย ช. (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เป็นผู้ขับ มีนายเอ(นามสมมุติ)อายุ 16 ปี นั่งโดยสารข้างคนขับ และมีนายบี(นามสมมุติ)อายุ 16 ปี นั่งโดยสารด้านหลัง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ฝากระโปรงท้ายรถ เมื่อเปิดออกพบ กระสอบสีเทาจำนวน 2 กระสอบ เปิดดูในกระสอบพบห่อยาบ้า รวมยาบ้าประมาณ 294,000 เม็ด


จากการสอบถามเบื้องต้นทั้งสามคนรับว่า เมื่อส่งยาบ้าเสร็จแล้ว จะได้รับค่าจ้างจาก นายอภิเชษฐ์ ทองมหา คนละ 1 หมื่นบาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล รวมจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาบ้า 294,000 เม็ด ยึดรถยนต์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 300,000 บาท โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า ) โดยการมีไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ฯ ก่อนนำตัวผู้ต้องทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร