กาฬสินธุ์ธรรมาภิบาลเปิดโปงรับเหมา 10 โครงการขาใหญ่กว่า 500 ล้าน ชาวบ้านทวงภาษี รับเหมาก่อสร้างไม่เสร็จสักอย่าง หยุดอ้างโควิด ชี้ปัญหาเรื้องรัง 5 ปีจะเยียวยายังไง ฝาก “เสี่ยหนู อนุทิน ” รมว.มหาดไทย แก้ไขให้ที
ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ทวงถามกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย หลังพบข้อมูลจัดเมกะโปรเจคต์มาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ในห้วงเดียวกัน 10 โครงการ เกิดปัญหาเดียวกันก่อสร้างไม่เสร็จตามกำหนดสัญญา แต่กลับถูกปรับ 0 บาททุกโครงการ ขณะที่ชาวบ้านรอคอยเมื่อไหร่จะก่อสร้างเสร็จ และจะเยียวยาความเสียหายอย่างไร หรือกรมโยธาฯ “เด็ดแต่ไม่ขาด” จะทำอะไรก็ไม่ทำ สุดท้ายฝากท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ผู้ตงฉิน แก้ไขด่วน
จากกรณี คณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ปปท.เขต 4 และ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอดส่องโครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมืองงบ 148 ล้านบาท “สร้าง 7 ชั่วโคตรยังไม่เสร็จ” ร้องเรียนหลายครั้งแล้วก็ยังไม่สร้างต่อ แม้กรมโยธาฯขยายเวลาให้จนใกล้ครบสัญญาแล้ว นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง งบ 39 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นผู้รับเหมารายเดียวกัน ด้านชาวบ้านแฉซ้ำตั้งแต่ร้องเรียนทั้ง 2 โครงการ ไม่เคยเห็นบริษัทรับเหมามาทำงานก่อสร้างต่อ ทำให้เกิดปัญหาสะสมเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจเมืองกาฬสินธุ์พังยับกว่า 750 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่สอดส่องของคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ปปท.เขต 4 และ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้พบอีก 8 โครงการที่มาในลักษณะเดียวกัน งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท หรือรวมทั้งโครงการสร้างระบบท่อระบายน้ำฯ และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลางกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการทำงานล่าช้า เกินกำหนดในสัญญาและมีการเบิกจ่ายไปบางส่วน ชาวบ้านวอนกรรมาธิการ ปปช.-ปปง.สภาผู้แทนราษฎร อภิปรายปัญหานี้ในสภาฯ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
วันที่ 3 เมษายน 2567 นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4. จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะกรรมาธิการ จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) กล่าวว่า เท่าที่คณะธรรมาภิบาลฯ ทราบเมื่อช่วงปี 2562-65 กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณ 10 โครงการใหญ่ เพื่อพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ให้เจริญก้าวหน้าตามศักยภาพ ทั้งนี้ ตามประกาศผู้ชนะการเสนอราคา แต่ละโครงการประกอบด้วย
(1) โครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ งบ 148,200,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มงานวันที่ 19 เม.ย.62 กำหนดแล้วเสร็จ 26 มิ.ย.64 ขยายสัญญาครั้งที่ 1 กำหนดแล้วเสร็จ 21 พ.ย. 64 ขยายสัญญาครั้งที่ 2 กำหนดแล้วเสร็จ 25 ก.พ. 68 จากการรายงานเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 ที่ผ่านมา คืบหน้า 63.21% ทั้งนี้ มีทั้งหมด 79 งวดงาน เบิกจ่าย 31 งวด ประมาณ 80,000,000 บาท เหลือ 68 งวดประมาณ 68,000,000 บาท
(2 ) โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง ความยาว 583 เมตร งบ 39,540,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 28 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.ค.67 โดยเบิกจ่าย 10 งวด จำนวน 11,000,000 บาท
นายชาญยุทธกล่าวต่อว่า ส่วนอีก 8 โครงการ ซึ่งได้รับการเปิดเผย 6 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 1,141 เมตร งบประมาณ 108,800,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เริ่มต้นสัญญา 12 ก.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย. 64 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 67 ผลงาน 79% ช้ากว่าแผน -21% เบิกจ่าย 50,377,600 บาท,
(2) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 423 เมตร งบประมาณ 59,306,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 63 สิ้นสุดสัญญา 9 พ.ย.65 ขยายเวลาจาก 10 ส.ค. 65 จำนวน 91 วัน แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาทถึงวันที่ 10 ส.ค.67 ผลงาน 26.22% ช้ากว่าแผน -73.78% เบิกจ่าย 14,978,900 บาท
(3) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะ 2) วัดลำชีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 385 เมตร งบประมาณ 59,270,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ต.ค. 65 ขยายระยะเวลา 73 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 65 แก้ไขสัญญา ค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 10 ส.ค. 67 ผลงาน 45.77% ช้ากว่าแผน -54.23% เบิกจ่าย 21,930,500 บาท
(4) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 937 เมตร งบประมาณ 59,350,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 64 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 14 มิ.ย.67 ผลงาน 1.65% ช้ากว่าแผน -64.37 % เบิกจ่าย 8,902,500 บาท
(5) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ.หนองหวาย-บ.หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 300 เมตร งบประมาณ 39,525,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.พ.67 ผลงาน 0% ช้ากว่าแผน 0% เบิกจ่าย 5,928,750 บาท
(6) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำพาน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 526 เมตร งบประมาณ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 10 เม.ย.67 ผลงาน 15% ช้ากว่าแผน -59% เบิกจ่าย 11,753,000 บาท ทั้งนี้ ส่วนอีก 2 โครงการ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ หากรวม 8 โครงการที่ทราบข้อมูลตามประกาศของกรมโยธาฯ จะพบว่ามีมูลค่าการก่อสร้างสูงถึง 558,481,000 บาททีเดียว ขณะที่อีก 2 โครงการ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูล
นายชาญยุทธกล่าวในตอนท้ายว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสรรงบประมาณมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 10 โครงการเป็นเรื่องดีที่ จ.กาฬสินธุ์จะได้รับการพัฒนาและ ถือเป็นเมกะโปรเจคต์ใหญ่วงเงินกว่า 500 ล้านบาท แต่เท่าที่ทราบพบว่า มีผู้ชนะการเสนอราคาด้วยวิธีการประกวดราคาอีเลคทรอนิคส์หรืออีบิดดิ้ง มี 2 รายคือ หจก.ประชาพัฒน์ และหจก.เฮงนำกิจ ซึ่งมีรายงานว่าทั้ง 2 รายเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่กาฬสินธุ์
โดยทุกโครงการ ยกเว้นโครงการสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งแก่งดอนกลางนั้น ได้รับการขยายระยะเวลาออกไปอีก และไม่ต้องเสียค่าปรับหรือมีค่าปรับเป็น 0 บาท โดยอ้างสถานการณ์โควิด-19 และผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ขณะที่พี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการชาวกาฬสินธุ์ ผู้เสียภาษี ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ต่างรอคอยด้วยความหดหู่อดสูใจ เหมือนไม่ได้รับการเอาใจใส่จากภาครัฐเท่าที่ควร ส่วนผู้รับเหมาเองก็ไม่ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ ต่อความล่าช้ารวมทั้งปัญหาและความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
“เมื่อหลายวันก่อน ทราบข่าวจากโซเชียล ว่าอธิบดีกรมโยธาฯ ได้ออกมาพูดเด็ดขาด ว่าจะยกเลิกสัญญาจ้างงานผู้รับเหมาที่ล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน รวมทั้งจะขึ้นบัญชี Black list และยกเลิกสัญญา 1 โครงการ แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากกรมโยธาฯเลย เหมือนจะ “เด็ด แต่ไม่ขาด” ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างไม่เสร็จสักอย่างอ้างโควิด ชาวบ้านที่รอข่าวอย่างมีความหวัง ก็เหมือนจะสิ้นหวังอีกแล้ว วันนี้จึงได้บอกผ่านมาที่คณะธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ส่งต่อความเดือดร้อน ฝากความหวังใหม่ไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่ได้ชื่อว่า รมว.ตงฉินอีกท่านหนึ่ง ว่าปัญหาก่อสร้างที่เรื้อรัง 5 ปีจะมีมาตรการด่วนแก้ไข และจะเยียวยาชาวบ้านยังไง ช่วยจัดให้ชาวบ้านด้วย