กาฬสินธุ์ – ยิ่งยืดเยื้อยิ่งพบเบาะแส ธรรมาภิบาลกาฬสินธุ์สุดอึ้ง งบป้องกันตลิ่งลำชี 39 ล้านบาท เบิกจ่ายก่อนกว่า 5 ล้าน

ยิ่งยืดเยื้อยิ่งพบเบาะแส ธรรมาภิบาลกาฬสินธุ์สุดอึ้ง! พบงบกรมโยธาฯ 8 โครงการกว่า 500 ล้านบาท งานยังไม่เสร็จสักตัว แถมบิ๊กเซอร์ไพรซ์งบป้องกันตลิ่งลำชี 39 ล้านบาท เบิกจ่ายก่อนกว่า 5 ล้านบาท


คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ สุดอึ้ง! หลังลงพื้นที่สอดส่องเมกะโปรเจคต์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในพื้นที่จังหวัด พบโครงการของกรมโยธาฯ 8 โครงการกว่า 558,281,000 บาท งานยังไม่เสร็จสักตัว มีการขยายเวลาแลปรับ 0 บาท แถมบิ๊กเซอร์ไพรซ์งบ ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี งบประมาณ 39,525,000 บาท ผลงาน 0% แต่มีการเบิกจ่าย 5,928,750 บาท เรียกร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงทั้งการขยายเวลา โดยไม่เสียค่าปรับ และเบิกจ่ายก่อนในบางโครงการ ด้านอธิบดีกรมโยธาฯ กำชับใช้มาตรการเข้มข้น เร่งรัดโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ ลดผลกระทบต่อประชาชน
จากกรณี คณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ปปท.เขต 4 และ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สอดส่องโครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมืองงบ 148 ล้านบาท “สร้าง 7 ชั่วโคตรยังไม่เสร็จ” ร้องเรียนหลายครั้งแล้วก็ยังไม่สร้างต่อ แม้กรมโยธาฯขยายเวลาให้จนใกล้ครบสัญญาแล้ว นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง งบ 39 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นผู้รับเหมารายเดียวกัน ด้านชาวบ้านแฉซ้ำตั้งแต่ร้องเรียนทั้ง 2 โครงการ ไม่เคยเห็นบริษัทรับเหมามาทำงานก่อสร้างต่อ ทำให้เกิดปัญหาสะสมเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจเมืองกาฬสินธุ์พังยับกว่า 750 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่สอดส่องของคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ปปท.เขต 4 และ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้พบอีก 8 โครงการที่มาในลักษณะเดียวกัน งบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท ซึ่งทำงานล่าช้า เกินกำหนดในสัญญาและมีการเบิกจ่ายไปบางส่วน ในขณะที่ผู้รับเหมากว่า 50 ราย และชาวบ้าน ผู้ประกอบการ เตรียมตบเท้าแจ้งความเอาผิดบริษัทใหญ่ และวอนกรรมาธิการ ปปช.-ปปง.สภาผู้แทนราษฎร อภิปรายปัญหานี้ในสภาฯ ล่าสุด ปปท.เขต 4 ขอนแก่น สายตรงถึงศูนย์อํานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ร่วมสางปัญหา ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 มีนาคม 2567 นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4. จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะกรรมาธิการ จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) กล่าวว่า จากการที่คณะทำงานเครือข่ายภาคประชาชนฯ และคณะ กธจ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำฯ และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง ร่วมกับผู้อำนวยการ ปปท.เขต 4 พร้อมคณะ ปละ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้รับรายงานว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดโครงการมาลงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ อีก 8 โครงการอีกด้วย ซึ่งทุกโครงการมีการเบิกจ่ายตามงวดงานไปแล้ว ตั้งแต่ 5 ล้านบาทถึง 50 ล้านบาท และก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา โดยมีการขยายเวลาออกไป รวมทั้งไม่มีการปรับ กรณีทำงานไม่เสร็จตามสัญญาอีกด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านและคณะ กธจ.เป็นอย่างมาก
นายชาญยุทธกล่าวอีกว่า สำหรับ 8 โครงการนั้น มีการเปิดเผยเบื้องต้น 6 โครงการ งบประมาณรวม 370,741,000 บาท ที่หากรวมกับโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำฯ 148,000,000 บาท และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง 39,540,000 บาท รวมทั้งหมดจำนวน 558,281,000 บาททีเดียว ซึ่งเป็นงบประมาณที่กรมโยธาธิการฯ กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติให้ จ.กาฬสินธุ์ เป็นโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ ในช่วงปี 2562 เป็นต้นมา เพื่อให้ จ.กาฬสินธุ์ เจริญก้าวหน้าตามศักยภาพ โดยผู้รับงานนี้ เป็นผู้รับเหมาที่ได้งานจากกรมโยธาฯ แต่ที่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยทำงานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันและมีการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างบางส่วนไปแล้ว
“สำหรับอีก 6 โครงการที่รับรายงานเพิ่มเข้ามา ประกอบด้วย (1) โครงการก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ งบประมาณ 108,800,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 12 ก.ย.62 สิ้นสุดสัญญา 30 ก.ย. 64 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 5 ม.ค. 67 ผลงาน 79% ช้ากว่าแผน -21% เบิกจ่าย 50,377,600 บาท, (2) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 59,306,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 63 สิ้นสุดสัญญา 9 พ.ย.65 ขยายเวลาจาก 10 ส.ค. 65 จำนวน 91 วัน แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาทถึงวันที่ 10 ส.ค.67 ผลงาน 26.22% ช้ากว่าแผน -73.78% เบิกจ่าย 14,978,900 บาท,(3) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะ 2) วัดลำชีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 59,270,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ต.ค. 65 ขยายระยะเวลา 73 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. 65 แก้ไขสัญญา ค่าปรับเป็น 0 ถึงวันที่ 10 ส.ค. 67 ผลงาน 45.77% ช้ากว่าแผน -54.23% เบิกจ่าย 21,930,500 บาท” นายชาญยุทธกล่าว
นายชาญยุทธกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมี (4.) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบประมาณ 59,350,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย. 64 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 14 มิ.ย.67 ผลงาน 1.65% ช้ากว่าแผน -64.37 % เบิกจ่าย 8,902,500 บาท, (5) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี บ.หนองหวาย-บ.หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 39,525,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.65 สิ้นสุดสัญญา 8 ก.พ.67 ผลงาน 0% ช้ากว่าแผน 0% เบิกจ่าย 5,928,750 บาท และ (6) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำพาน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 44,490,000 บาท เริ่มต้นสัญญา 23 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 4 ก.ค.66 แก้ไขสัญญาค่าปรับเป็น 0 บาท ถึงวันที่ 10 เม.ย.67 ผลงาน 15% ช้ากว่าแผน -59% เบิกจ่าย 11,753,000 บาท
“ส่วนอีก 2 โครงการ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ คณะ กรรมาธิการจังหวัดและ ปปท.-ปปช. ยังให้ข้อสังเกตถึงการทำงานที่ไม่แล้วเสร็จด้วยว่า เหตุใดโครงการที่ทำง่านไม่เสร็จตามกำหนดในสัญญาจึงไม่ถูกปรับ ผิดกับการรับเหมาเจ้าอื่นที่หากก่อสร้างไม่แล้วเสร็จจะต้องมีค่าปรับ รวมทั้งบางโครงการความคืบหน้า 0% ซึ่งเท่ากับว่ายังไม่ลงมือทำงาน กลับมีการเบิกจ่ายแล้วกว่า 5 ล้านบาท จึงได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ปกติดังกล่าว และอยากเรียกร้องไปถึงผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจง ทั้งการขยายเวลา โดยไม่เสียค่าปรับ และเบิกจ่ายก่อนในบางโครงการด้วย เพราะสังคมต้องการคำตอบอยู่” นายชาญยุทธกล่าวในที่สุด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง มีการดำเนินโครงการก่อสร้างต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาเมือง โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำชุมชน และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการก่อสร้างหลายโครงการที่ประสบปัญหาล่าช้า ไม่เป็นไปตามกรอบเวลา ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน และเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างมาก ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน
โดยนายพงศ์รัตน์กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีการประชุมติดตามความก้าวหน้า รับฟังปัญหา พร้อมให้คำเสนอแนะในการดำเนินงานมาโดยตลอด รวมทั้งมีหนังสือแจ้งเร่งรัดการก่อสร้างไปยังผู้รับจ้างของกรมทุกโครงการ และได้กำหนดมาตรการเข้ม ในการเร่งรัดการก่อสร้าง ดังนี้ (1) เร่งแก้ไขส่วนที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน – กรณีโครงการที่ล่าช้ากว่าแผนงาน ให้เร่งดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน (2) สำหรับผู้รับจ้างที่ทำงานล่าช้ามากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดจะดำเนินการขึ้นบัญชี Black list ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถยื่นประมูลงานของกรมต่อไปได้ และ (3 ) สำหรับผู้รับจ้างที่ทำงานล่าช้า จนเป็นเหตุอันเชื่อได้ว่า ไม่สามารถทำงานให้เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน จะดำเนินการบอกเลิกสัญญา และหาผู้รับจ้างรายใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่พร้อมดำเนินงานทันที


“กรมฯ มีความมุ่งมั่นที่จะควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้ออกมาด้วยความเรียบร้อย มีคุณภาพ ปลอดภัยตามมาตรฐานทางวิศวกรรม คุ้มค่ากับการใช้งาน และสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน พร้อมกับย้ำชัดว่า กรมฯ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า และจะดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานของกรมโยธาธิการและผังเมือง” นายพงศ์รัตน์กล่าวในที่สุด

ร้องเรียน

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.