ร้อยเอ็ด – ชื่นชมตำรวจน้ำดี ทำ CPR ผู้ต้องหาผูกคอตัวเองในห้องขังหมดสติจนฟื้นคืนชีพ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 2567 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1669 รพ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุผู้ต้องขังผูกคอตัวเองหมดสติในห้องขัง สภ.เมืองร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่เวรกู้ชีพ จึงได้นำทีมออกไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบตำรวจ 2 นายพยายามทำ CPR ผู้ต้องหาอยู่ที่พื้นห้องขัง ซึ่งผู้ต้องขังเริ่มมีชีพจรกลับคืนมา จึงรับตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.ร้อยเอ็ด จนอาการปลอดภัย

ทราบชื่อผู้ที่พยายามจะฆ่าตัวตายคือ นายณัฐกร อายุ 22 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ต้องหาในคดีมียาเสพติด(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองจำนวน 4,058 เม็ด ถูกคุมขังเดี่ยวเพื่อรอการนำไปฝากขังยังศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ใช้เสื้อที่ตนเองสวมใส่ผูกกับกรงเหล็กของห้องขัง สูงจากพื้นประมาณ 2.5 เมตร ห้อยโตงเตงอยู่

ร.ต.ท.ถาวร มาตย์วิเศษ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาบนสถานีกล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณโต๊ะสิบเวรประตูทางเข้าสถานี ได้สังเกตเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดในจอทีวี ขณะที่ จ.ส.ต.ศุภชิต บุญสุข เจ้าหน้าที่พิมพ์ลายนิ้วมือ กำลังพาผู้ต้องขังรายหนึ่งเข้าคุมขัง มีอาการเร่งรีบและพยายามเปิดประตูห้องขังห้องดังกล่าวเข้าไป พร้อมกับตะโกนออกมาว่ามีผู้ต้องขังแขวนคอตนเองกับกรงเหล็ก ก่อนรีบช่วยกันนำร่างลงมาและพบว่าหมดสติ

ตนและ ด.ต.นันทะ กุลสุข หน้าที่ตำรวจเปรียบเทียบปรับ จึงรีบเข้าไปดูซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นชีพจรไม่เต้นแล้ว ด.ต.นันทะ จึงบอกเพื่อนร่วมงานถอยออกไป และขอทำการ CPR ดูก่อนประมาณ 3 – 4 นาที จึงพบว่ามีการถอนหายใจขึ้นมาเฮือกหนึ่ง จึงหยุดจากนั้นจึงเริ่มทำต่อจนในที่สุดผู้ต้องหารายดังกล่าวเริ่มหายใจและฟื้นคืนมา


ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบ ด.ต นันทะ กุลสุข เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าตัวบอกว่า ระหว่างที่ตนเองปฏิบัตหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้ยินเสียงสิบเวรขอความช่วยเหลือว่ามีผู้ต้องขังผูกคอตัวเองจนหมดสติ จึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าได้มีการนำร่างลงมาไว้บนพื้นแล้วเบื้องต้น ตนเองจึงตรวจสอบลมหายใจ และไม่มีชีพจรเลย จึงบอกเพื่อนร่วมงานว่า ตนเคยผ่านการอบรมช่วยฟื้นคืนชีพ จึงขออาสาทำลองดู เผื่อได้ผล ทำอยู่หลายนาทีผู้ที่หมดสติ เริ่มหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่ จากนั้นได้พยายามทำต่อจนร่างที่หมดสติดเริ่มมีลมหายใจและมีการตอบสนอง ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพนาก รพ.ร้อยเอ็ด เดินทางมาถึงจึงให้เป็นหน้าที่ของทางกู้ชีพ ก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด

ด.ต นันทะ กล่าวอีกว่ามันเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไม่มีประสบการณ์หรือไม่มีความรู้ปล่อยร่างหมดสติไว้รอแต่ชุดกู้ชีพมาช่าย ร่างของน้องที่เป็นผู้ต้องหาอาจจะช่วยไม่ทันการณ์แต่อย่างไรก็ตามการช่วยชีวิตคนให้ฟื้นคืนได้ มันทำให้เรามีความสุข มีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ช่วยเหลือ 1 ชีวิตถึงแม้ 1 ชีวิตนั้นจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม ก็เป็นหนึ่งชีวิตเหมือนกัน

วินัย วงศ์วีระขันธ์ รายงาน