กาฬสินธุ์ (ชมคลิป) “ขุนเดช” หนุ่มป่วยจิตเวชคลิปไวรัล ‘ปลื้ม’ “มาลีฮวนนา” โคฟเวอร์ ผู้บริหารเพลงค่ายดังขอซื้อสิทธิ์ทุกเพลง

นายอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ติดตามสภาพจิตใจของ”ขุนเดช” หรือนายเดช ธรรมประชา ศิลปินจิตเวชดังชั่วข้ามคืน ขณะที่โปรดิวเซอร์ค่ายเพลงดังรุดเยี่ยม พร้อมให้โอกาสสนับสนุนเป็นศิลปินในสังกัดค่ายเพลง และให้ความช่วยเหลือทุกด้าน เพื่อให้สุขภาพจิตหายจากเป็นจิตเวชโดยเร็ว ขณะที่”ขุนเดช” สุดปลื้ม “อ.ไข่ มาลีฮวนนา” นำเพลงไปโคฟเวอร์ พร้อมดีดกีตาร์คู่ใจโชว์ลูกคอเพลงให้ฟังอีกด้วย

จากกรณีเกิดกระแสไวรัลชั่วข้ามคืน หลังผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งได้แชร์คลิป หนุ่มจิตเวช ดีดกีต้าร์ร้องเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ที่แต่งขึ้นเอง แล้วนำมาขับร้องอย่างไพเราะ สุดซึ้ง โดยปลัดอำเภอสมเด็จและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่มาติดตามประเมินผลอาการของผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มเป้าหมาย พบเห็นแล้วถ่ายคลิปเผยแพร่ทางโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลข้ามคืน โดยมีคนเข้ามาติดตาม และคอมเม้นท์ พร้อมแชร์ในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลายนั้น

ล่าสุดวันที่ 16 มีนาคม 2567 นายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายสถาพร วันนุกุล และนายอธิปพันธ์ วรรณศรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่พบปะ ติดตามบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 10 บ้านโคกกว้าง ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์

ซึ่งเป็นบ้านของชายจิตเวชคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังนายเดช ธรรมประชา หรือชาวบ้านเรียกว่า “ขุนเดช” อายุ 44 ปี โดยมีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน มาเยี่ยมให้กำลัง และแสดงความยินดี ที่นายเดชจากคนป่วยจิตเวช ได้กลายเป็นศิลปินชื่อดังไปแล้ว จากเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้นายเดชยังได้นำสมุดเขียนเพลงที่แต่งไว้กว่า 20 เพลงมาให้ดู พร้อมกีตาร์และร้องเพลงเพราะๆให้ฟังอีกด้วย

โดยนายเดช เล่าว่า ตนอาศัยอยู่บ้านคนเดียว เคยมีครอบครัว แต่หย่าร้างกับอดีตภรรยาแล้ว ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยรับจ้างทั่วไป และชอบแต่งเพลง เล่นกีตาร์ เป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งทุกเพลงแต่งจากชีวิตจริงของตน และสังคมทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นสไตล์เพลงเพื่อชีวิต อย่างเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟนั้น แต่งจากแรงบันดาลใจ เข้ากับชีวิตตัวเองที่หย่าร้างกับอดีตภรรยา ทั้งนี้ จากการที่ตนสามารถเล่นกีตาร์และแต่งเพลงได้นั้น นอกจากจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวแล้ว ยังซึมซับมาจากคุณพ่อ ที่เคยเป็นคนสอนดนตรี และแต่งเพลง แต่งกลอนลำในชุมชน สมัยที่ตนยังเป็นเด็กอีกด้วย

นายเดช กล่าวอีกว่า ในส่วนที่เพลงของตนกลายเป็นไวรัลดังในโลกโซเชียลมีคนเข้ามาดูจำนวนมาก โดยเฉพาะอ.ไข่ มาลีฮวนน่า นำไปร้องโคฟเวอร์ นั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีโทรศัพท์เล่น แต่ได้ยินจากชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังเท่านั้น ทั้งนี้ตนรู้สึกดีใจอย่างมาก เพราะส่วนตัวก็ชื่นชอบ อ.ไข่ มาลีฮวนน่าอยู่แล้ว แต่ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ นำเพลงของตนไปโคฟเวอร์ และขอบคุณค่ายเพลงนาคราชคู่ที่จะเข้ามาสนับสนุนเพลง และให้โอกาสเป็นนักร้องด้วย

ด้านนายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอสมเด็จ กล่าวว่า เมื่อวันที่12 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการฝ่ายความมั่นคง อ.สมเด็จ ได้ลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลกลุ่มเป้าหมายที่มีอาการจิตเวช รายนายเดช ธรรมประชา ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มสีแดง ขณะทำการประเมิน นายเดชได้นำกีตาร์คู่ใจ ออกมาดีดและร้องเพลงคลอไปด้วย ปลัดอำเภอและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าเพราะดี จึงได้นำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปไว้ ก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล และเกิดเป็นไวรัลดังชั่วข้ามคืน มีคนเข้าไปชมกว่า 3  ล้านวิวดังกล่าว

นายวิชาญกล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่อง ตนได้ลงพื้นที่พบนายเดชที่บ้าน พร้อมได้มอบสายกีตาร์และร่วมเล่นกีตาร์ร้องเพลงกับนายเดชด้วย  ยอมรับว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและแต่งเพลง ทั้งนี้ ทางอำเภอและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้ลงพื้นที่ประเมินสภาพจิตนายเดชเป็นระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตามทราบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา สภาพจิตใจของนายเดชดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่นายเทพทัต กล้าหาญ ประธานค่ายเพลงนาคราชคู่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้มอบหมายนายรุ่งโรจน์ อาจนะรา และนายอภิชาติ แก้วบูโฮม 2 ศิลปินและโปรดิวส์เซอร์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและสอบถามนายเดช โดยพบว่ากำลังเล่นกีตาร์และแกะเพลงตามปกติ ท่าทางอารมณ์ดีและมีความสุข

นายอภิชาต กล่าวว่า หลังจากเห็นข่าวที่กำลังเป็นกระแส จากข่าวหลายสำนักที่นำเสนอเนื้อหาข่าว ของชายคนหนึ่ง ที่เป็นจิตเวช แต่มีความสามารถแต่งเพลงเอง ร้องเพลงได้ โดยน้ำเสียงไม่ธรรมดา จนไปแตะตาประธานค่ายเพลงนาคราชคู่ เอนเตอร์เทนเมนท์ คุณเทพทัต กล้าหาญ และบอร์ดบริหาร จึงได้เล็งเห็นในความสามารถนี้ และอยากมอบโอกาสครั้งสำคัญ ให้ชายคนนี้ ได้ร่วมงานกับทางค่ายเพลงนาคราชคู่  ออกซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง และ ซื้อเพลงที่เขียนไว้จำนวนมาก ไปทำดนตรีใหม่ รวมทั้งจะผลักดันทุกรูปแบบ เพื่อเป็นตัวแทน และขอเป็นอีกหนึ่งในกระบอกเสียงสำคัญ ของคำว่าโอกาสมีให้ทุกคนเสมอ เพียงเรามีใจรัก และยังสู้