8 มีนาคม ของทุกปี วันสตรีสากล เป็นวันที่มีชื่อเดิมว่า “วันแรงงานสตรีสากล” International Women’s Day โดยผู้หญิงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมในสังคม ด้านแรงงาน เพื่อเฉลิมฉลองและให้ความสำคัญกับสิทธิสตรีอย่างเท่าเทียมกัน
โดยในวันที่ 8 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ จากนางสาวถนอม ใชยชาติ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ที่ 6 ต.กุดสะเทียน อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย(พิการขากุดทั้ง 2 ข้างและแขนกุดข้างหนึ่ง)มาตั้งแต่กำเนิด จึงไม่สามารถเดินไปไหนมาได้เหมือนคนปกติทั่วไป อาศัยรถวินแชร์ และรถจักรยานไฟฟ้าขับไปมาเลี้ยงชีพตนเองไปวันๆ สืบต่ออาชีพของบิดา(ขายลอตเตอรี่)ในหลายพื้นที่ และล่าสุดไปขายลอตเตอรี่ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย หลังโดนวิกฤติเงินในบัญชีเกลี้ยงเพราะโอนเงินผิดจากบัญชีของตนเองไปเข้าบัญชีของคนที่ไม่รู้จักคนละธนาคาร จนต้องใช้ชีวิตเปิดหมวกร้องเพลง เลี้ยงชีวิตหลังแทบจะหมดความหวัง
นางสาวถนอม เล่าว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กพ.67 ตนเองได้เดินทางไปธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ด้วยความไม่สะดวกของร่างกายไม่สามารถที่ขึ้นไปทำธุรกรรมทางการเงินได้ จึงขอความร่วมมือจากผู้หญิงคนหนึ่ง(ไม่ทราบชื่อ/สกุลและตำแหน่งหน้าที่)ที่คอยให้คำแนะลูกค้าอยู่หน้าธนาคาร เพื่อขอให้ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าที่โอนเงินจากบัญชีของตนเองไปยังธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาอำเภอศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นบัญชีของพ่อ หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ได้นำเอกสาร(สมุดธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และบัตรประชาชน) คืนให้ พร้อมโชว์รายการให้ดูว่าโอนให้เรียบร้อยแล้ว ตนเองก็ไม่ได้เอะใจ จึงโทรไปบอกพ่อว่าได้โอนเงินเข้าบัญชีแล้ว จำนวน 30,000 บาท คำตอบที่ตนได้รับจากพ่อแทบจะเป็นลม เพราะเงินจำนวนดังกล่าว ยังไม่เข้าบัญชีของพ่อแต่อย่างใด
จากนั้นตนเองจึงกลับมาที่ธนาคารอีกครั้งหนึ่งว่าเมื่อสักครู่ได้โอนเงินจากบัญชีของตน จำนวน 30,000 บาท เข้าบัญชีของพ่อ แต่เงินไม่เข้า จึงให้ธนาคารตรวจข้อมูลให้ เมื่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารตรวจสอบแล้ว เงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีของนายสุนัย(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นธนาคารทหารไทยธนชาติ สาขาเลย หมายเลขบัญชี 8412045…….XXX หลังจากนั้นธนาคารแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เชียงคาน และเข้าพบพนักงานสอบสวนเวร บันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมขอให้ สภ.เชียงคาน ได้ทำหนังสือถึงธนาคารทหารไทยธนชาติ เพื่อขอให้อายัดเงินในบัญชีธนาคารและชื่อบุคคลดังกล่าว และขอรายการเคลื่อนไหว สเตทเม้นท์ทางบัญชี เมื่อวันที่ 20 กพ.67 เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการสืบสวน หรือพิจารณาคดีในชั้นศาล
ด้วยความลำบากไม่มีเงินลงทุนต่อ จึงต้องหาอาชีพเสริมขายขนม ขายไข่ เท่าที่จะทำได้จนต้องไปร้องเพลงเปิดหมวกถนนคนเดินอำเภอเชียงคาน ประทังชีวิตไปวันๆ จึงขอร้องสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เจ้าของบัญชีที่ตนเองโอนเงินเข้าบัญชีผิด ได้สงสารเพราะตนเองก็พิการทางร่างกาย ประกอบกับอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคาน ช่วยเร่งรัด ตรวจสอบชื่อของบุคคลดังกล่าวให้ด้วย เพราะลำพังชีวิตตนเองไปไหนมาไหนก็ลำบาก ยิ่งมาเจอปัญหาแบบนี้ก็เลยทุกข์ใจเป็นหลายเท่า พ่อแม่ก็เดือดร้อนไม่มีเงินไปจ่ายดอกธนาคาร เพราะครบสัญญา 1 ปีแล้ว จึงอยากได้เงินจำนวนดังกล่าวมาลงทุนเลี้ยงชีพตนเองในการขายลอตเตอรี่ต่อไป นางสาวถนอม ขอวิงวอน
“ขอฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์จะโอนเงินให้ใครควรดูชื่อเจ้าของบัญชี ที่เราจะโอนก่อนว่าถูกต้องหรือเปล่า แต่ถ้าเรามือไวไปหน่อยจึงโอนผิดบัญชีเพราะความบกพร่องทางร่างกายไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ส่วนเจ้าของบัญชีปลายทางที่ได้รับโอนเงิน ซึ่งไม่ใช่เงินของตัวเองควรมีจิตสำนึกและเช็กดูว่าเงินที่เข้าบัญชีมาจากไหน อยากได้เงินคืน”
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดหนองบัวลำภู