อดีตนักกีฬาตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ชุดเอเชียนเกมส์ที่ประเทศจีน ระบุ ยังไม่ได้รับเงินอัดฉีดมากกว่า 1 ล้านบาท จากผู้จัดการทีม แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 15 ปี หลังจากรุ่นพี่อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ได้ออกมาแฉเรื่องที่เกิดขึ้น
นางสาวพิกุล (ปูดำ) สีดำ อายุ 30 ปี ชาวบ้านใหม่ศรีสุข ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น กำลังนำภาพที่ได้รับเหรียญทองตะกร้อหญิง ทีมชาติไทย จากการแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 กว่างโจวเกมส์ 2010 ออกมาดูเพื่อรำลึกถึงการที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ทีมชาติไทย และชาวจังหวัดขอนแก่น “ปูดำ” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ยังไม่ได้เงินรางวัลอัดฉีด หลังจากที่ พันตำรวจโท สืบศักดิ์ ผันสืบ หนึ่งในกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเซปักตะกร้อแห่งประเทศไทยชุดใหม่ ได้ออกมาเผยถึงเงินอัดฉีดของนักกีฬาได้หายไปกว่าครึ่ง และยังได้โพสข้อความที่ตนเองได้โพสในเฟสบุ๊คชื่อ ปูนา ขาเก พ่วนแหล่วววว ที่มีข้อความระบุเกี่ยวการใช้ชีวิตที่ลำบาก
พิกุล สีดำ เล่าว่า ตนเองชื่นชอบการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อตั้งแต่เด็ก และตอนที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ติดทีมชาติไทย และเลิกเล่นตะกร้อ ตอนเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพราะจะต้องเรียน เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งในช่วงติดทีมชาตินั้น สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขัน กว่างโจวเกมส์ 2010 ในประเภททีมเดี่ยวหญิง และทีมชุด โดยขณะนั้น มีการอัดฉีดเงินรางวัลเหรียญทองคนละ 1 ล้านบาท ในแต่ละประเภท
ตนเองขอขอบคุณพี่โจ้ สืบศักดิ์ ผันสืบ ที่ได้หาวิธีในการช่วยติดตามเงินอัดฉีด เพราะตนเองยังไม่ได้รับเงินเป็นจำนวน 1 ล้านบาท ในช่วงนั้นตนเองได้มา 1 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้านบาท โค้ชกับผู้จัดการทีมไม่รู้นำเงินไปไว้ไหน แม้ว่าในช่วงจะเลิกเล่นให้ทีมชาติ ได้มีการติดต่อไปทางโค้ชและผู้จัดการทีมแต่เรื่องก็เงียบหายไป
ปูดำเผยชีวิตครอบครัวว่า ตนเองได้มีครอบครัว โดยทางสามีได้ไปทำงานต่างประเทศ มีลูกสาววัย 3 ขวบเศษ อาศัยอยู่บ้านปลูกผักขาย แม้ชีวิตจะไม่ลำบากมากก็อยากจะได้เงินอัดฉีดที่เหลือเพื่อเป็นทุน เผื่อได้มาทำธุรกิจดูแลครอบครัว ซึ่งขณะนี้เรื่องนี้ได้ผ่านไปถึง 13 ปี แล้ว อยากให้อดีตโค้ชและผู้จัดการ ได้สงสารอดีตนักกีฬาด้วย เพราะตอนนี้เงินก็เริ่มไม่พอใช้จ่าย แต่ละเดือนทางสามีจะโอนมาให้เดือนละ 5,000 บาท.