ศรีสะเกษ – กกล.สุรนารี นำกำลังบุกรวบ 3 มอดไม้เหิม แอบตัดไม้ประดู่หวงห้าม

 

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.อ.นิสิต สมานมิตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 มอบหมายให้ ร.ต.ณรงค์ฤทธิ์ โสชาลี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี นำกำลังทหาร ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ภูสิงห์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ภูสิงห์ สนธิกำลังหลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบชักลาก ขนย้ายไม้ประดู่ผ่านบริเวณถนนลูกรังด้านทิศเหนือบ้านธาตุ หมู่ 3 ต.ละลม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเข้าตรวจสอบดักซุ่มยังบริเวณที่ได้รับแจ้ง

จากนั้นพบรถยนต์บรรทุกต้องสงสัย วิ่งผ่านมายังจุดที่ได้รับแจ้ง จำนวน 2 คัน โดยมีวัสดุปกปิด อำพรางวัตถุอย่างหนึ่งอย่างใดไว้ที่ท้ายกระบะของรถทั้งสองคัน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถพร้อมแสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อขอเข้าตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวก็หยุดรถ แล้วลงจากรถมาให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเป็นอย่างดี ผลการตรวจสอบรถยนต์คันที่ 1 เป็นรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ สีฟ้า ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ELF 250 หมายเลขทะเบียน 80-0252 ศรีสะเกษ มีผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรวม 2 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ นายพิชิต ขุขันธิน อายุ 37 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ และมี นายประ เหมาะหมาย อายุ 51 ปี ชาว อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้โดยสารนั่งมาด้วย ตรวจสอบกระบะท้ายรถพบมีไม้ประดู่ บรรทุกมาด้วย จำนวน 6 ท่อน และพบเลื่อยโซ่ยนต์ สีเขียว/ส้ม จำนวน 1 เครื่อง และรอกขนาด 3 ตัน 1 ตัว

ส่วนรถคันที่ 2 เป็นรถยนต์บรรทุก 4 ล้อ มี นายสะเบ็ญ สงใส อายุ 54 ปี ชาว อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ ตรวจสอบท้ายรถพบมีไม้ประดู่ บรรทุกมาด้วย จำนวน 2 ท่อน รวมไม้ประดู่ จากรถทั้งสองคัน จำนวน 8 ท่อน ปริมาตรรวม 3.11 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 108,850 บาท และเมื่อตรวจสอบที่หน้าตัดของไม้จำนวนดังกล่าว พบร่องรอยคล้ายถูกตัดทอนด้วยเลื่อยโซ่ยนต์ ในลักษณะใหม่สด สังเกตจากเปลือกและยางไม้ที่ยังแดงสดและเหนียวข้นอยู่ และไม่พบรูปรอยดวงตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลขาย หรือรอยตราใด ๆ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายป่าไม้ประทับไว้แต่อย่างใด และตรวจสอบที่เลื่อยโซ่ยนต์เครื่องดังกล่าวไม่พบรูปรอย หรือสติกเกอร์แสดงการอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์แต่อย่างใด

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การอ้างว่า ได้ร่วมกันรับซื้อไม้มาจากชาวบ้าน ในราคา 10,000 บาท และได้ตัดไม้ดังกล่าวมาจากบริเวณป่าอ้อยด้านทิศใต้ บ้านโพธิ์คำ ต.ห้วยตึ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนำไปแปรรูปส่งขายต่อให้กับนายทุน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน