ธารน้ำใจช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง นายอำเภอศรีบุญเรือง ร่วมกับแม่บ้านมหาดไทยเขตอำเภอศรีบุญเรือง รุดช่วยเหลือครอบครัวหนุ่มพิการอัมพาตท่อนล่างทุกข์ทรมารหัวอกคนเป็นแม่ดูแลร่วม 16 ปี
ผู้สื่อข่าวร่วมเดินทางลงพื้นที่กับ นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง นางรุจิรา จรกระ
โทก แม่บ้านมหาดไทย เขตอำเภอศรีบุญเรือง และ คณะแม่บ้านมหาดไทยเขตอำเภอศรีบุญเรือง คณะกรรมการพัฒนาสตรีศรีบุญเรือง พร้อม 7 ภาคีเครือข่ายนำเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุในการก่อสร้างไปเยี่ยมครอบครัวของ นางสาวศศิธร เข็ดคม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 9 บ้านลาดกรุงศรี ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู
หลังทราบข่าวจากประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดหนองบัวลำภู ว่ามีแม่บังเกิดเกล้าเฝ้าเฝ้าเลี้ยงดูลูกชายที่เกิดอุบัติเหตุจนทำให้แขนทั้งสองข้างพิการมือกำไม่ได้ และร่างกายไม่มีความรู้สึกตั้งแต่หน้าอกลงมาถึงปลายเท้า ฐานะครอบครัวยากจน พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังคามุงสังกะสี โดยบริเวณร่มไม้ใกล้บ้านพบนายพลวัฒน์ จันทร์เชิด หรือ แบงค์ หนุ่มวัย 31 ปีที่ประสบอุบัติเหตุจากการกระโดดลงสระน้ำ แต่ศีรษะดันไปกระแทกกับพื้นปูนสระจนคอหักและสลบ เพื่อนๆนำมาปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสาคร โดยอยู่ในการรักษาของแพทย์นานถึง 2 ปี
ในขณะที่นางสาวศศิธรฯผู้เป็นแม่เล่าให้ฟังว่าตนเองมีบุตร 3 คนในขณะที่ที่กำลังดูแล นายพลวัฒน์ฯอายุ 31 ปี ลูกชายคนโตที่พิการนอนอยู่บนโครงเตียงเหล็กแบบชั่วคราว สอบถามเบื้องต้น นายพลวัฒน์ฯ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร พอมาหนึ่งพร้อมเพื่อน 3 คนที่ทำงานร่วมกันได้ชวนกันไปเล่นน้ำในสระน้ำของหมู่บ้านที่ตนทำงานอยู่ ซึ่งลักษณะของสระมีทั้งส่วนที่ลึกและตื้นตามแนวของสระและมีช่วงเวลาหนึ่งตนเองได้กระโดดลงไปสระในลักษณะของการพุ่งลงไป นึกว่าสระจะมีความลึก แต่ตนเองกับพุ่งลงไปศีรษะไปกระแทกกับพื้นปูนอย่างแรง จนทำให้คอหักและไม่รู้สึกตัว เพื่อนนำขึ้นมาปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล
นายพลวัฒน์ฯ เปิดเผยต่อว่า แพทย์บอกกับแม่ตนเองกระดูกต้นคอหักและทับเส้นประสาทต้องผ่าตัด และทำให้เป็นอัมพาตท่อนล่างตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงขา รวมทั้งแขนทั้งสองข้างพิการไปด้วย โดยแขนข้างขวาพอยกได้เล็กน้อย ส่วนแขนข้างซ้ายไม่สามารถยกได้ และกำมือทั้งสองข้างไม่ได้เลย ทุกวันนี้แม่จะคอยดูแลตน ทำความสะอาดร่างกายให้ รวมทั้งต้องทำคอยดูแลตนทั้งเช้าและเย็นทุกวัน ทำให้แม่ไม่มีเวลาออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้เหมือนก่อน ส่วนพ่อยังพอออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้ แต่ก็มีคนจ้างน้อยมาก บางวันไม่มีใครจ้างก็ไม่มีรายได้เข้าบ้าน ทุกวันนี้ตนต้องใช้แพมเพิสวันละหลายชิ้น
ขณะที่นางสาวศศิธรฯผู้เป็นแม่เปิดเผยว่า ลูกชายยังมีสิ่งที่ขาดคือแพมเพิส ทิชชู่ม้วนยาว ทิชชู่เปียก ถุงมือยาง และชุดทำแผล น้องไม่สามารถหยิบน้ำดื่มได้ ทานข้าวเองไม่ได้ แม่จึงต้องคอยดูแลตลอดจนไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้ตามปกติ ตอนนี้เสาหลักของบ้านก็พิการทางมือออกไปทำงานไม่สะดวก แต่วันไหนมีแรงก็สู้ทนออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวให้มีชีวิตอยู่ต่อไปกันวัน ๆ ที่ลำบากก็คือเวลาพาน้องชายไปหาแพทย์ ถ้ารถของญาติไม่ว่างก็ต้องหาจ้างรถเพื่อนบ้าน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนอกจากค่าน้ำมัน สำหรับผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของตนเพื่อลูกชาย สามารถให้ความช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้หรือสอบถามเพิ่มเติมได้กับนางรุจิรา จรกระโทก แม่บ้านมหาดไทยเขตอำเภอศรีบุญเรือง
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู
