ศรัณยาฯลูกพรรค พปชร.เขต 1 เบอร์ 7 เปิดใจบนคราบน้ำตา อ้อนพลังประชาชนในเขต 1สม่ำเสมอทุกพื้นที่ไม่หนีประชาชน เปลี่ยนใหม่เบิ่งแน่ ขณะที่สนธิรัตน์ฯรุดให้กำลังใจ ขอให้เป็น ส.ส.เขต 1 พร้อมชูนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 ต่อเดือนปุ๋ยครึ่งราคานำพาสู่สวัสดิการรักษาพยาบาลใกล้บ้าน
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 4 พค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่โดมสันตุสสโก ภายในโรงเรียนหนองบัววิทยายน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู นางศรัณยา สุวรรณพรหม ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เบอร์ 7 เขต 1 เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ร่วมเวทีปราศรัยพร้อมแกนนำผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เดินทางมาร่วมให้กำลังใจพร้อมพลังมวลชนที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัครอย่างคับคั่ง
โดยบริเวณภายในเวทีปราศรัยและโดยรอบได้ติดป้ายสโลแกน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” ตามนโยบายหัวหน้าพรรค เพื่อใช้สำหรับหาเสียง และเตรียมให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ติดป้ายในแต่ละพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์พรรค ชูนโยบายที่เป็นไฮไลท์ “บัตรประชารัฐ” เพิ่มเงิน-เพิ่มสวัสดิการ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน เป็นการสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนไปใช้จ่ายในครัวเรือน เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ค่าสาธารณูปโภค ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้าและน้ำประปา ขณะที่นโยบายด้านอื่นจะทยอยแถลงเป็นระยะ
โดยนางศรัณยา สุวรรณพรหม ลูกพรรค พปชร.เบอร์ 7 เขต 1 ได้ขึ้นเวทีเปิดใจด้วยเสียงสั่นเครือและคราบน้ำตาว่าตนเองเดินเข้าสู่เวทีการเมืองตั้งแต่เป็นผู้ช่วย ส.ส.เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่สนามการเมืองในระดับท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารจังหวัดหนองบัวลำภู เขต อำเภอโนนสัง (ส.อบจ.)เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู ก่อนหน้านั้นเคยสังกัดพรรคการเมืองลงเลือกตั้งในระดับชาติ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า10 ปีตนเองไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมทั้งงานมงคลและงานอวมงคล ดูแลสวัสดิการพี่น้องประชาชนทั้งในเขตเลือกตั้งและนอกเขตเลือกตั้งเสมอต้นเสมอมา
นางศรัณยาฯกล่าวว่าที่ผ่านมามีผู้สนับสนุนตนเองว่าหากอยากเป็น ส.ส.ในเวทีระดับชาติต้องเปลี่ยนพรรคตนเองเลือกเป็นสมาชิกพรรคที่ชาวบ้านไม่สนับสนุน จึงทำให้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างที่ตนสมัครเป็นสมาชิกของพรรคต้องเปลี่ยนไปตามกฏกติกาในการเลือกตั้ง ทำให้พรรคเล็กพรรคน้อยต้องเปลี่ยนไป และเมื่อมาถึงวันนี้เวลานี้ตนขอโอกาสพ่อแม่พี่น้องในเขตเลือกตั้งขอแรงใจสนับสนุนเลือกตนเป็น ส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ผ่านมาพี่น้องในเขตเลือกตั้งคงได้คำตอบแล้วว่าผู้แทนของท่านได้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ สมกับที่ท่านให้ความไว้วางใจมากน้อยเพียงใด ในขณะที่นางศรัณยาฯกล่าวปราศรัยขอโอกาสให้พี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งให้ความรักและสงสารเปลี่ยนใหม่เบิ่งแน่ๆๆท่ามกลางเสียงปรบมือโบกธงสะพัดให้กำลังใจ
จากนั้น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนมาปราศรัยที่นี่เพราะมีผู้สมัคร ส.ส.ที่จะได้เป็น ส.ส. ชื่อนางศรัณยา สุวรรณพรหม เบอร์ 7 ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค. นี้ พี่น้องต้องตัดสินใจเลือกผู้สมัคร ส.ส.ที่รู้จัก เป็นคนหนองบัวลำภู โดยกำเนิดโดยเลือดเนื้อเชื้อไขชาวหนองบัวลำภู และมีประสบการณ์ เพื่อจะได้ช่วยพี่น้องได้ หากพี่น้องเลือก ศรัณยาฯเบอร์ 7 และเลือกพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 37 แล้ว พี่น้องที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้เงินเพิ่มจากเดิม 300 บาท เป็น 700 บาท”นอกจากนี้ยังมีนโยบายช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะปุ๋ยครึ่งราคา ให้ทุนเพื่อประกอบอาชีพ สำหรับครอบครัวเกษตรกรที่ถือบัตรประชารัฐ ครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท เพื่อพัฒนาให้พี่น้องมีรายได้ดีขึ้น พรรคพลังประชารัฐ พร้อมขับเคลื่อน รพ.สต.เป็นโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ต้องตื่นมารอคิวตีสี่ตีห้า และต้องทำให้พี่น้องพ้นจากความยากจนให้ได้ การแก้ปัญหาหนี้สินให้พี่น้อง ถือเป็นนโยบายหลักของพรรค
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่าวันนี้หากไม่มีพรรคการเมืองใดที่เป็นกาวใจเชื่อมโยงทุกฝ่ายได้ บ้านเมืองจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งพรรคพลังประชารัฐประกาศแล้วว่าไม่อยากเห็นประชาชนแตกแยกกันอีกแล้ว คนไทยด้วยกันใครจะชนะจะแพ้ต้องอยู่ด้วยกัน พรรคพลังประชารัฐจึงประกาศนโยบายพร้อมจะเป็นกาวใจ ทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามความขัดแย้งวันนี้มาขอคะแนนเพราะพี่น้องต้องเลือกคน และพรรคไปเป็นตัวแทน เป็นกาวใจให้เราไม่แตกแยกกัน หากพี่น้องเลือกนางศรัณยาฯ และพรรคพลังประชารัฐ ท่านจะได้ ส.ส. มารับใช้พี่น้องประชาชน และได้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล เราจะทำให้เขต 1 หนองบัวลำภู ดีขึ้นด้วยนโยบายของพรรค” นายสนธิรัตน์ฯ กล่าว
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ภาพและข่าว/เพ็ญนภา ทับซ้ายขวา รายงานข่าว
