เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พ.ค.66 ที่หน้า สภ.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย นายทวี เสริมภักดีกุล ผวจ.เลย เป็นประธานแถลงข่าว จับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติด จำนวน 1,188,000 เม็ด มีนายนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รอง ผวจ.เลย ,นายกฤษฎา โพธิ์ชัย นายอำเภอปากชม
ฝ่ายทหารโดย พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,พล.ต. ปริชญ์ สุคันธศรี ผบ.มทบ.28/ผอ.สน.ปรมน.ทบ.28 ,พ.ท.เจษฎาพร ชาญกัน ผบ.ขกท.กกล.สุรศักดิ์มนตรี
ผวจ.เลย กล่าวว่า พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากชม ได้รับแจ้งจากสายลับทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนแม่น้ำขงเข้ามายังประเทศไทย บริเวณบ้านห้วยเหี้ยม ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวและเฝ้าดูในพื้นที่ตามที่สายลับแจ้ง ตามวันเวลาที่จับกุมกระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน 5กย-6348 กทม. จำนวน 1 คัน ลักษณะผิดสังเกตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุดรถและแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจคันรถคันดังกล่าว
จากการซักถามขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับว่า ตนได้มานัตรับยาเสพติด ขณะกำลังขยายผล ได้มีโทรศัพท์เบอร์ประเทศลาว โทรเข้ามาโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่ 2 และมีเสียงผู้หญิงสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองว่าจะมารับของหรือไม่ จอดรถอยู่ที่ไหน ผู้ต้องหาทั้งสองแจ้งว่ากำลังไป ใกล้ถึงแล้วและกดวางสาย จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปรับยาบ้าตามจุดที่นัดหมาย ครู่หนึ่งมีชายประมาณ 4 คน แบกถุงกระสอบ สีดำ คนละ 1 กระสอบ รวมทั้งหมด 4 กระสอบ ขึ้นมาจากริมน้ำ ชายคนแรกโยนกระสอบ สีดำ จำนวน 1 กระสอบ ขึ้นท้าย
รถยนต์คันตังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ชายทั้ง 4 คนจึงทิ้งกระสอบ และอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบพบยาบ้าของกลาง บรรจุอยู่ในกระสอบรวม 4 กระสอบ
จากการตรวจสอบ รวมยาบ้าของกลางทั้งหมดประมาณ 1, 188,000 เม็ด ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย รอง ผบก.ภ.จว.เลยกล่าวขอร้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการจับกุม ขอให้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาทางโทรศัพท์โดยตรง อย่าราบงานทางไลน์ หรือทางโซเชี่ยลอื่นๆ เนื่องจากเล็ดลอดไปถึงผู้สื่อข่าว ทำให้การขยายผลมีปัญหา เนื่องจากทางคนร้ายรู้ตัว เข้าไปขยายผลแล้วไม่พบหลักฐาน เรื่องจากเราจะขยายผลเพื่อการยึดทรัพย์อันเป็นการตัดตอน ผู้ต้องหาไม่สามารถมีทุนไปทำธุรกิจด้านนี้ต่อไป
สำหรับผลการจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 นายอภิสิทธิ์ ลุนสำโรง อายุ 37 ปี ,ผู้ต้องหาที่ 2 นายพีระพล ใจสามารถ อายุ 25 ปี แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือ ตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย”พร้อมด้วยของกลาง1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 4 กระสอบ รวมยาข้าของกลางทั้งหมดประมาณ 1,188,000 เม็ด, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตบิชิ ไทรทัน สีดำ ป้ายทะเบียน 5กย-6348 กทม. จำนวน 1 คัน และหลักฐานอื่นๆอีกหลายรายการ
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / จ.เลย