อาละวาดรายวันโจรปีนตัดสายไฟตามเสาไฟฟ้า เหิมเกริมหนักปีนเข้าในบ้านขโมยตัดสายไฟ 2 วันติดตอนกลางวันแสกๆ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2566 ร.ต.อ สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้ง คนร้ายขโมยตัดสายไฟ ที่บ้านช้าง ม.3 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าบ้านเลขที่ 20/22 ชุมชนบ้านช้าง ม.3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี พบ น.ส.น้อย นามสมมุติ อายุ 55ปี แม่บ้าน พาตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบที่บริเวณเสาไฟฟ้า ซึ่งถูกคนร้ายใช้อุปกรณ์ตัดสายไฟฟ้าจากเสาไฟเข้าในบ้าน บริเวณรั้วข้างบ้านในกล่องแผงไฟ โดยมีสายไฟเมนหลักขนาด 2.5 ความยาว 10 เมตร จำนวน 4 เส้น และสายไฟขนาด 2.00 ความยาว 10 เมตร จำนวน 8 เส้น ท่อพี.วี.ซี .ขนาด 1 นิ้ว 2 เส้น ถูกคนร้ายตัดสายไฟ เข้าตัวบ้านไป
น.ส.น้อย นามสมมุติ เล่าว่าตนเป็นแม่บ้านคอยดูแลบ้านหลังนี้เนื่องจากเจ้าของบ้านอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตนจะมาดูแลบ้านทุกวันจันทร์, พุธ และศุกร์ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตนมาดูแลบ้านตามปกติ เมื่อไปเปิดสวิตช์ปั๊มน้ำ เครื่องก็ไม่ทำงาน จึงมาดูพบว่าสายไฟข้างรั้วถูกคนร้ายตัดไปพร้อมท่อพี.วี.ซี ขนาด1 นิ้ว ที่ใช้สายไฟถูกขโมยไปด้วย ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกเจ้าของบ้าน ซึ่งยังไม่ได้แจ้งตำรวจ เพราะคิดว่าเล็กน้อย มาวันนี้ เจ้าของบ้านได้ให้ช่างไฟ มาทำการติดตั้งสายไฟใหม่ ก็พบว่า สายไฟจากเสาไฟฟ้า ถูกตัด และสายไฟจากเบรกเกอร์ในกล่องแผงควบคุมถูกตัดไปหมด จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
น.ส.น้อย เล่าเพิ่มเติมว่า เพื่อนบ้านได้ยินเสียงสุนัขเห่าและ มองขั้นไปบนเสาไฟ ช่วงเช้าเวลาประมาณ 9.00 น. แต่ไม่ได้สังเกตอะไร นึกว่าเจ้าหน้าที่มาจดมิเตอร์ไฟฟ้าตามปกติ จนช่วงบ่าย เมื่อช่างไฟจะมาซ่อมสายไฟฟ้าในบ้านจึงทราบว่าสายไฟฟ้าถูกตัดอีกเป็นครั้งที่2
พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบ สันนิฐานว่า คนร้ายอาจะเป็นคนเดียวกันที่ตระเวนก่อเหตุ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เนื่องจากเป็นพฤติกรรมลักษณะการก่อเหตุที่เหมือนกัน คือ มุ่งเป้าไปที่สายไฟฟ้า จากเสาไฟ โดยวิธีการปีนขั้นไปตัดสายไฟ ซึ่งจะลงมือในจุดที่ลับสายตาคน ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่มีคนอยู่ หรือ บ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย โดยจะลงมือช่วงกลางวัน ทางตำรวจสืบสวนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
