ขอนแก่น - 'เครียด' แม่ด่าภรรยาทิ้ง หนุ่มเสพยาก่อนปีนเสาไฟแรงสูง

ชายคลั่งเกิดอาการเครียดหลังภรรยาทิ้ง ถูกแม่ด่า ก่อนจะเสพยาบ้าแล้วปีนเสาไฟฟ้าแรงสูง เจ้าหน้าที่ใช้เวลากล่อมนานกว่า 5 ชั่วโมง ลงมาพร้อมร้องขออยากอยู่ในคุกให้นาน ๆ

12 ก.พ.66 เวลา 11.45น. ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ต้องขึ้นรถกระเช้าดับเพลิงเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อขึ้นไปพูดคุยกับชาย ที่ได้ปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแรงสูง ภายในชุมชนเหล่านาดี 12 เขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากได้ปืนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00น. ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันพูดคุย จึงได้นำรถกระเช้าขึ้นไปรับตัวชายคนดังกล่าว ลงมาได้สำเร็จ โดยต้องใส่กุญแจมือ เพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก จนกระทั่งกระเช้าได้ลงมาสู่พื้น สร้างความโล่งใจกับเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น

โดยชายคนดังกล่าวบอกว่า ตนเองเสพยาบ้าจริงส่วนการจะเข้าการรักษาบำบัดนั้น ไม่ยาอยากบำบัด แต่อยากจะเข้าคุกแบบไม่มีกำหนดและอยากอยู่แบบไม่มีครอบครัว อยากอยู่ในคุกมากกว่าการทำงาน

นางนงค์เยาว์ กงภูเวศน์ ประธานชุมชนซอยเหล่านาดี 12 เล่าว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ นายพิษณุ สาราคำ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 99/175 เหล่านาดี 12 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยครอบครัวผู้ของนายนุเดิมทีอยู่บริเวณบึงแก่นนคร จากนั้นได้มาซื้อบ้านอยู่ภายในชุมชนเหล่านาดี 12 ได้ประมาณ 1 ปีกว่า และจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับคนในชุมชนเท่าไหร่ เพราะเป็นครอบครัวใหญ่มีสมาชิกอยู่หลายคน จนกระทั่งระยะหลัง แฟนสาวของชายคนดังกล่าวได้มีปากเสียงกันเป็นประจำ รวมทั้งแม่ก็มีปากเสียงทุกวัน และยังพบว่าเป็นคนที่มีการเสพยาเสพติดด้วย และในช่วงเช้าวันนี้แม่ได้ด่าอีกว่า เป็นคนไม่มีประโยชน์ มีแต่ขอเงินใช้ไปวันๆไม่ยอมทำงาน จนทำให้เกิดอาการเครียด ก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแรงสูง จนกระทั่งเวลา 08.00น. ชาวบ้านได้โทรแจ้งตนเองให้ทราบ ซึ่งปัญหาของชายคนนี้คือมักน้อยใจ เพราะถูกแม่ด่าเนื่องจากขอเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ซึ่งหากทางครอบครัวต้องการให้บำบัด ทางตนเองซึ่งเป็นผู้นำชุมชน ก็จะช่วยในการนำตัวไปบำบัดยาเสพติด หรือหากไม่มีงานทำ ทางตนเองก็จะมีการประสานเพื่อหางานให้ทำ เพื่อไม่ให้กลับมายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเทศบาลนครขอนแก่น ได้ดูเรื่องปัญหายาเสพติดในชุมชนมาโดยตลอด

หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายนุ ไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อสงบสติอารมณ์ และนำปัสสาวะไปตรวจสอบพบว่ามีสารเสพติดจึงได้แจ้งข้อกล่าว “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ก่อนจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.