ขอนแก่น (ชมคลิป) ตำรวจภูธรภาค 4 กวาดล้างขบวนการค้าปืนเถื่อน ‘เครือข่ายมาดิ’

ตำรวจภูธรภาค 4 กวาดล้างขบวนการค้าปืนเถื่อนเครือข่ายมาดิ ได้ของกลางอาวุธปืนสั้น ปืนยาว และเครื่องกระสุน หลายพันรายการ ส่วนการขยายผลในพื้นที่ 12 จังหวัดได้ปืนรวม 474 กระบอก ผู้ต้องหา 516 ราย

            10 ก.พ.66 อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 474 กระบอก อาวุธมีทะเบียนจำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 840 นัด เป็นของกลางที่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจแต่ละท้องที่ ร่วมกันตรวจยึดได้ จากขบวนการค้าปืนเถือนเครือข่าย “มาดิ”   หลังจากได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน จากการติดตามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์

               พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนภาค 4 กล่าวว่า เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10มิถุนายน 2565  ตำรวจสภ.เอราวัณ จังหวัดเลย จับกุมนายกฤษฎา เหล่าจูม พร้อมของกลาง อาวุธปืนสงคราม อาวุธปืนพกสั้น  และเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก  จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค4 ขยายผลการจับกุม  กระทั่งทราบว่า มีการติดต่อซื้อขายยอาวุธปืนผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ “@มาดิ7-11” และนำไปสู่การจับกุมนางสาวกมลชนก สุขแสง เจ้าของบัญชีม้า ที่ใช้ในการรับโอนเงินค่าอาวุธปืน และจับกุมนายอดุลพินิจ จีระชาติสกุล ซึ่งเป็นแอดมินกลุ่มไลน์ จนนำไปสู่การขยายผลปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมาย 3 แห่ง จนสามารถติดตามจับกุมแก็งค์ ครอบครัวมาดิ ซึ่งจะได้มีการขยายผลต่อไป เพราะยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกันหลายพื้นที่ โดยเฉพาะโรงงานผลิตอาวุธปืนพบว่ามีในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ก่อนจะขยายผล ตรวจยึดวาวุธปืน อาวุธสงครามและเครื่องกระสุน ได้อีกจำนวนมาก จากโรงงานผลิตอาวุธปืน ในจังหวัดร้อยเอ็ด พังงา และจังหวัดพิจิตร ต่อไปจะต้องมีการขยายผลคนที่ได้ซื้ออาวุธปืนไป พร้อมกับใช้มาตรการฟอกเงินกับคนที่ซื้อปืนด้วย

            พล.ต.ท.ยรรยง เวลโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ขณะนี้การก่ออาชญากรรมโดยการใช้อาวุธปืนมีมากขึ้น โดยพาะเครือข่ายกลุ่มค้ายาเสพติดจะมีการหาอาวุธปืนติดตัว เพื่อใช้ในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมตัว แม้กระทั่งการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทตามงานรื่นเริงต่างๆ ทำให้มีการสะสมปืนที่มีการหาซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ จนนำมาก่อเหตุประจำ ทำให้ตำรวจภูธรภาค 4 ต้องมีการตัดวงจรด้วยการเร่งระดมกวาดล้างอาวุธปืนอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพราะอาวุธปืนที่ใช้จะมีราคาถูกจึงทำให้มีการครอบครองอาวุธปืนมากขึ้น จนนำมาใช้ก่อเหตุ ทำให้ตำรวจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการออกเหตุ ส่วนในช่วงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายกลางปีนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนขณะนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืน หรือกลุ่มผู้อิทธิพล.