มุกดาหาร - ตม. จับกุมสาวชาวเหงียนลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับหน่วยความมั่นคงจับกุมหญิงชาวเวียดนาม 2 ราย ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้ง 2 สารภาพเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ

วันที่ 2 ธ.ค. 65 ภายใต้การอำนวยการสั่งของ พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จังหวัดมุกดาหาร , พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.4บก.สส.สตม. , พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตม.จังหวัดมุกดาหาร พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ ทิพธนาวิวัฒ รอง ผกก.ตม. , พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก สารวัตร ตม. พร้อมด้วย ชุด ชป.1กก.สส.บก.ตม.4สตม. , ชุด ชป.3กก.สส.บก.ตม.4สตม. , กก.4 บก.สส.สตม. , ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร , ชุด กก.สส.ภ.จังหวัดมุกดาหาร ,ปก.ปทส. ร้อย ตชด.ที่ 234 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ร่วมกันจับกุมตัว 1. MRS. NGUYEN THI LY ( นาง เหงี่ยน ทิ ลี ) อายุ 21 ปี สัญชาติเวียดนาม 2. MRS. NGUYEN THI MIEN ( นาง เหงี่ยน ทิ เมียน ) อายุ 23 ปี สัญชาติเวียดนาม ซึ่งจับกุมได้ที่ริมถนนชยางกูร บริเวณหน้าปั้ม ปตท.ลานทอง มุกดาหาร ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และการกระทำความผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบ MRS. NGUYEN THI LY อายุ 21 ปี สัญชาติเวียดนาม ถือหนังสือเดินทางเลขที่ C 8879914 และ MRS. NGUYEN THI MIEN อายุ 23 ปี สัญชาติเวียดนาม ถือหนังสือเดินทางเลขที่ C8825859 ( ทราบชื่อ สกุลและอายุ ภายหลัง ) ยืนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ลักษณะท่าทางคล้ายคนต่างด้าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบพบว่า พบ MRS. NGUYEN THI LY และ MRS. NGUYEN THI MIEN ไม่มีข้อมูลหรือตราประทับการตรวจอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

จากการสอบถามหญิงชาวเวียดนามทั้ง 2 ราย ยอมรับว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ได้เดินทางเข้ามาประเทศลาวในวันที่ 1 พ.ย. 65 แล้วได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยทางช่องทางธรรมชาติ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คน ให้ทราบว่า “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ก่อนควบคุมตัวหญิงชาวเวียดนาม มาที่ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.