จบดราม่าผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ แจงกรณีลูกค้า ธ.ก.ส.วัย 61 ปี แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เหตุเงินในบัญชีถูกคนอื่นกดเบิกหายไปกว่า 10,000 บาท ระบุเป็นการเข้าใจผิด จำนวนที่ปรากฏในสมุดเงินฝากเป็นยอดเงินรวม ที่ปรากฏหลังปรับสมุด ขณะที่ลุงเจ้าของบัญชียืนยันเข้าใจดีแล้ว เงินยังไม่เข้า คงเหลือติดในบัญชี 25 บาทจริงๆ
จากกรณีมีผู้โพสภาพวิดีโอในโลกโซเชียลชายสูงวัยถูกคนร้ายในคราบพลเมืองดี อาสาทำทีเป็นคนดีกดเงินให้จนเงินถูกถอนเกลี้ยงบัญชีเหลือติดบัญชีแค่ 25 บาท พร้อมระบุว่า วันนี้ใจคนมันต่ำจริงๆ ช่วงนี้มันช่วงชาวนาได้เงินช่วยจากรัฐบาล แต่มีคนฉวยโอกาสกับคนแก่ไม่รู้อะไร ด้วยความกดเงินตู้ ATM ไม่เป็นจึงวาคนแถวนั้นกดให้ แต่กลับกดเงินของตาไปหมื่นกว่าบาทหมดเกลี้ยง เหลือติดบัญชี 25 บาท ทำกันได้คนเรา บางคนเขารอทั้งปี ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาวิพากพิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก หลายคนสงสารชายคนดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 นายอำนวยพร ภูจีระ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ เพื่อพบและชี้แจงข้อเท็จจริงกับนายสุบรรณ บุญเลิศ อายุ 61 ปี ชาวบ้านปอแดง ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นชายสูงวัยที่อยู่ในคลิป เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง แต่เพื่อนบ้านบอกว่านายสุบรรณออกไปธุระในตัวจังหวัด ขณะที่ภรรยาและลูกชายนายสุบรรณ ไปทำงานที่โรงงานน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ตอนนี้จึงไม่มีใครอยู่บ้าน แต่ก่อนหน้านี้หลังมีผู้นำคลิปในโลกโซเชียล เจ้าหน้าที่ธ.ก.ส.สาขาโคกศรีได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับนายสุบรรณ ให้ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว
นายอำนวยพร ภูจีระ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี กรณีดังกล่าว เบื้องต้นตนทราบข่าวจากโซเชียล ก่อนที่จะได้รับการประสานจากนายเชาวฤทธิ์ เกตุดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จ.กาฬสินธุ์ เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง
หลังจากตนและเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในระบบบัญชีลูกค้า รายนายสุบรรณอย่างละเอียดแล้ว พบว่ายอดเงินจำนวน 10,750 บาท ที่ปรากฏในช่องถอนเงินในสมุดบัญชีนั้น ไม่ได้เป็นการถอนเงินเมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 แต่เป็นยอดการถอนเงินหลายครั้งรวมกันในช่วงรอบปีที่ผ่านมา พอมีการนำเอาสมุดบัญชีมาปรับอัพเดท เครื่องปรับสมุดบัญชีได้รวมยอดเงินการถอนเป็นยอดเดียวกัน
นายอำนวยพรกล่าวว่าอีกว่า สำหรับเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท หรือเงินค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 1,000 บาทของนายสุบรรณ ซึ่งได้ร่วมโครงการฯ และจะได้รับในรอบต่อไปนั้น เงินยังไม่ถูกโอนเข้าบัญชี เนื่องจากการส่งข้อมูลในระบบเกษตรกรอยู่ในรอบหลังๆ ส่วนเงินประกันรายได้หรือเงินส่วนต่างนายสุบรรณจะไม่ได้ เนื่องจากนายสุบรรณขายข้าวได้ในราคาตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนดให้คือตันละ 12,000 บาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน
“ทั้งนี้ เดิมเวลานายสุบรรณจะไปถอนเงินหรือกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จะให้ลูกหลานกดให้ ซึ่งจะเป็นเงินเบี้ยยังชีพ ก่อนที่นายสุบรรณจะเข้าไปกดที่กู้เอทีเอ็ม ธ.ก.ส.สาขากาฬสินธุ์ เพื่อเช็คที่ถอนเงินช่วยชาวนาจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะพบว่าเงินเหลือในบัญชี 25 บาท ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าถูกคนที่วานให้กดเงินเอาเงินไป จึงไปแจ้งความ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จนเกิดเป็นข่าวที่แชร์ในโซเชียลดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สาขา โคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสาขาที่นายสุบรรณเป็นลูกค้า ได้เข้ามาชี้แจงและทำความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งนายสุบรรณและทุกคนในครอบครัวก็เข้าใจดี โดยเป็นการเข้าใจผิด จำนวนที่ปรากฏในสมุดเงินฝากเป็นยอดเงินรวมถอนเงินที่ปรากฏหลังปรับสมุด ขณะที่ลุงเจ้าของบัญชียืนยันเข้าใจดีแล้ว เงินยังไม่เข้า คงเหลือติดในบัญชี 25 บาทจริงๆ เรื่องก็คงเป็นอันยุติไป” นายอำนวยพรกล่าว
นายอำนวยพรกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามจึงอยากฝากเตือนไปถึงลูกค้า ธ.ก.ส.หรือประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่จะไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง มีความรัดกุมในการกดเงิน เพื่อป้องกันเหตุถูกมิจฉาชีพฉวยโอกาสหรืออาชญากรรมอื่นๆ หากเป็นไปได้ เวลาไปกดเงินควรให้บุตรหลานพาไป จะสะดวกและปลอดภัย กว่าที่จะไปกดเงินด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาด หรือเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเหมือนครั้งนี้
สำหรับบรรยากาศการถอนเงิน ที่ตู้เอทีเอ็ม ธ.ก.ส.สาขากาฬสินธุ์ จุดที่นายสุบรรณมากดเงิน พบว่ามีลูกค้า ประชาชน เดินทางมาใช้บริการถอนเงินตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ และดูแลความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นแต่อย่างใด