จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย (ทีมทนายโนบีตะ)ได้ลงพื้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจ.อุดรฯ ได้ทราบข่าวว่าพนักงานเสิร์ฟถูกลูกค้ามอมยา…
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย ช่วงเวลา 19.30 น. ได้มีลูกค้าชายฉกรรจ์ 4 ราย ได้มาใช้บริการที่ร้านที่เกิดเหตุ โดยมีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และมีการเรียกพนักงานเสิร์ฟสาวของที่ร้านมาดูแลเป็นการส่วนตัว โดยมีการชักชวนให้พนักงานเป็นเพื่อนนั่งดื่ม
จากคำบอกเล่าของพนักงาน เล่าว่า ตนเองก็ได้นัุ่งดื่มตามปกติ โดยลูกค้าชวนสาวเสิร์ฟให้เล่นเกมเอาแบงค์พันแก้วแล้วให้ดื่ม ” สักพักพนักงานคนหนึ่งได้เห็นลูกค้าหยิบขวดยาเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้วพยายามหยอดลงในแก้ว แต่พนักงานคนดังกล่าวได้ปฏิเสธ ลูกค้ารายนั้นจึงบอกว่า เดี๋ยวจะเปลี่ยนแก้วให้ แล้วลูกค้ารายนั้นได้มีการเดินไปชงเครื่องดื่มให้พนักงาน โดยที่พนักงานก็ไม่รู้ว่าได้ถูกเปลี่ยนแก้วให้จริงหรือป่าว… หลังจากดื่มต่อพนักงานสาวเสิร์ฟเริ่มมีอาการมึนหัวและร้อนวูบไปทั้งตัว ถึงขั้นอยากจะถอดเสื้อผ้าและมีอารมณ์ทางเพศร่วมด้วย
พนักงานได้เล่าต่อไปว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้เดินไปทางหลังร้านเพื่อที่จะล้างหน้าล้างตา ใช้ผ้าเย็นเช็ดเพื่อที่จะให้สร่างจากอาการ แต่กลับกลายเป็นว่าอาการยิ่งหนักกว่าเดิม มีอาการร้อนวูบหนักขึ้นพูดจาไม่รู้เรื่อง (จากคำบอกเล่าของเพื่อนพนักงานเสิร์ฟ) และหลังจากนั้นสาวเสิร์ฟคนนั้นก็ไม่รู้เรื่องอีกเลย หลังจากนั้นเวลา 22.30 น. เจ้าของร้านได้ประสานมาที่ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย เพื่อขอความช่วยเหลือ เฮียจึงได้เข้ามาที่ร้านที่เกิดเหตุและช่วยนำส่ง รพ.อุดรธานี ซึ่งแพทย์แจ้งว่า น้องๆพนักงานมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำจึงได้รักษาตาม อาการและอนุญาตให้กลับบ้านได้
จนมาวันที่ 28 ก.ย ช่วงบ่ายเฮียเปี๊ยกได้ประสานให้ไปตรวจเลือดที่ศูนย์แล็บอุดร หลังจากตรวจเสร็จทางแล็บแจ้งว่าผลตรวจจะได้หลังจากนี้ประมาณ 10 ถึง 14 วัน โดยเฮียเปี๊ยก เปิดเผยว่า คืนวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. มีแขกเข้ามาใช้บริการที่ร้าน 4 คน เป็นแขกประจำ 1 คน อีก 3 คนเป็นคนต่างถิ่น เข้ามารับประทานอาหารและเครื่องดื่มในโซนห้องแอร์ โดยมีพนักงานต้อนรับ 2คนและสาวประเภทสอง เข้ามาร่วมดื่มกินกับแขกด้วย แต่แขกให้ทั้ง 3 คนดื่มเหล้าลักษณะให้ทิป ใช้ธนบัตร 100 บาทพันแก้ว ให้ดื่มจนหมด แต่พนักงานต้อนรับคนหนึ่ง เห็นแขกนำขวดน้ำ และผงสีขาวหยอดใส่แก้วเหล้า ซึ่งได้มีการทักท้วงว่าไม่ดื่ม ทำให้แขกออกอุบายจะเปลี่ยนแก้วให้
แต่สุดท้ายพนักงาน ก็มีอาการมึนงง และวูบล้มลง แขกทั้ง 4 คนก็เช็คบิลออกไปจากร้าน ซึ่งน้องทั้ง 3 คน มีอาการร้อนวูบวาบ มึนงง หัวใจเต้นแรง และมีอารมณ์ทางเพศ จะถอดเสื้อผ้า ร้องโวยวาย จนต้องฉีดน้ำใส่ร่างกาย ซึ่งได้ถ่ายคลิปไว้ ก่อนจะนำส่งโรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่า น้ำตาลในเลือดต่ำ และรักษาตามอาการ พออาการดีขึ้นได้ไปตรวจเลือดหาสารแปลกปลอม จะต้องรอผลเลือด 10-14 วัน หากผลพิสูจน์เลือดออกมาว่าเลือดมีสารแปลกปลอม ก็จะดำเนินคดี ตามกฏหมาย
หลังจากนั้นเฮียเปี๊ยกได้ประสานให้น้องทั้งสามคนเดินทางไปที่สภ.เมืองอุดรธานีเพื่อเข้าแจ้งความและได้ปรึกษากับท่านผู้กำกับสภ.เมืองอุดรธานีถึงเรื่องนี้ซึ่งทางท่านผู้กำกับได้ประสานไปทางตำรวจชุดสืบเมือง เพื่อให้ลงมาดูแลคดีนี้เป็นพิเศษ
เบื้องต้นทางด้านฝ่ายตำรวจนั้นคงต้องรอพยานหลักฐานนั่นคือผลตรวจเลือดและภาพจากกล้องวงจรปิดรวมถึงภาพจากคลิปที่พนักงานถ่ายไว้ในจุดเกิดเหตุในเวลาที่เกิดเหตุเพื่อเป็นพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำผิดในครั้งนี้ต่อไป