ซาลาเปาลูกทุ่ง เป็นซาลาเปาที่มีการขายมานานถึง 51 ปี จากรุ่นปู่ถึงรุ่นหลาน โดยการใช้แป้งโบราณจึงทำให้แป้งไม่ติดคอ พร้อมใส่แน่นๆทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนตลดทั้งวัน
20 ส.ค. 2565 ที่บริเวณถนนพิมพสุตตัดถนนเทพารักษ์ เป็นที่ตั้งของร้านซาลาเปาลูกทุ่ง ในทุกวันตั้งแต่เปิดร้านเวลา 07.00 น. จะมีลูกค้าเดินทางมาอุดหนุนจำนวนมาก โดยทางร้านมีซาลาเปาให้เลือกจำนวน 4 ไส้ คือ ไส้เหลือง ไส้ถั่วดำ ไส้หมูสับ และไส้หน่อไม้ ทุกไสได้ใส่ไว้ใต้แป้งนุ่มๆแบบไส้ทะลัก โดยไส้หวาน ไส้ถั่วดำ จำหน่ายลูกละ 20 บาท ส่วนไส้หมูสับและไส้หน่อไม้ จำหน่ายลูกละ 25 บาท นอกจากนี้ยังมีขนมจีบที่อัดแน่นด้วยเนื้อหมูอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ราคาชุดละ 20 บาท
นางสาวกัณฐิมา นามวิเศษ เล่าว่า ตนเองเป็นทายาสรุ่นที่ 3 แล้ว ที่มาขายซาลาเปาต่อจากปู่จากนั้นก็เป็นรุ่นพ่อ โดยเริ่มขายครั้งแรกเมื่อปี 2514 ลุงของตนเองจะขายซาลาเปาแบบใส่รถเข็นเดินขายเคาะครกไปทั่วตัวเมืองขอนแก่น ต่อมาปูเข็นรถไม่ไหว ลุงก็มาขายต่อจากปู่ ต่อมาลุงได้เสียชีวิตลง พ่อตนเองก็มาขายต่อจนมาถึงรุ่นของตนเองในปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นที่ 4 กับตำนานซาลาเปาลูกทุ่ง จึงมาเช่าพื้นที่ขายบริเวณถนนพิมพสุตตัดถนนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น
ส่วนเกลักษณ์ความอร่อยตั้งแต่รุ่นปู่มาถึงปัจจุบัน ซาลาเปาลูกทุ่งได้ใช้แป้งโบราณ ที่คิดค้นทำเอง จะไม่ใช้แป้งจากโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปที่วางขายตามท้องตลาด ตนเองได้สืบทอดการทำแป้งยุคปู่มาทำเอง เพราะแป้งจะมีเอกลักษณ์คือความนุ่มและเมือกินพร้อมกับไส้ต่างๆ แป้งจะไม่ติดคอ อีกทั้งซาลาเปามีขนาดใหญ่จึงทำให้เป็นอกลักษณ์ของซาเปลาลูกทุ่ง มีลูกค้ามาซื้อตลอดทั้งวัน
นางสาวกัณฐิมา เล่าต่อว่า ในช่วงยุคโควิดระบาดรอบแรกและมีการประกาศล๊อคดาวน์ ที่ จากเดิม ที่เคยเปิดร้านขายในเวลา 15.00น. ก็ขยับเวลามาเปิดในเวลา 12.00น. ทำให้มีลูกค้ามาซื้อจำนวนมากจนขายไม่ทัน ต่อมาจึงได้ขยับเวลาเปิดร้านเป็น 10.00น. ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ต่อมาพ่อจึงเลื่อนเวลามาเป็นขายเป็น 2 รอ คือรอบเช้าระหว่างเวลา 07.00น. ถึงเวลา 14.00น. และรอบบ่าย 15.00น. ไปจนกว่าจะขายหมด
สำหรับผู้ที่สนใจรับประทานร้านซาลาเปาลูกทุ่ง เปิดขายที่บริเวณแยกถนนพิมพสุตตัดถนนเทพารักษ์ หรือเส้นหลังตลาด อ.จิระ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เปิดขายตั้งแต่เวลา 07.00น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังรับจัดทำเบรก โรงทาน ติดต่อโทรศัพท์ติดต่อได้ที่ 064-1643345 ซาลาลูกทุ่งขอนแก่นสูตรแป้งโบราณ.