หนองบัวลำภู (ชมคลิป) ดร.พระราชวชิรธาดา จจ.หนองบัวลำภู ประธานสงฆ์ประกอบพิธีลาสิกขาพระนวกะ 10 รูปที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ พระพันปีหลวง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่(13 สค.65)ณ ศาลาการเปรียญวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ดร.พระราชวชิรธาดา เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการประกอบพิธีลาสิกขาแก่พระนวกะ จำนวน 10 รูปที่เข้าร่วมโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565
พร้อมด้วยพระอุดมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าคณะอำเภอและพระสังฆาธิการ ร่วมในพิธีสำคัญในวันนี้

ในส่วนของจังหวัดหนองบัวลำภู นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผวจ.หนองบัวลำภู มอบหมายให้นายอนุชา พัสถาน ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อาทิ อัยการจังหวัดหนองบัวลำภู ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู ประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองบัวลำภู ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภู ปลัดเทศบาลตำบลยางหล่อ และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยคณะญาติของพระนวกะร่วมในพิธีลาสิกขาในครั้งนี้

ขณะที่พระศุภกร พุทฺธสรโณ ( พ.ต.อ.ศุภกร เพียรเสมอ) ผู้กำกับสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็น 1 ใน 10 รูป ที่ร่วมอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กล่าวถึงแรงบันดาลใจและความตั้งใจอย่างสูงของตนเอง ถือได้ว่าเป็นความมุ่งมั่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเพื่อความสงบสุข ก่อนบวช เคยฝันเห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 และ พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ท่านเสด็จมาเยี่ยมสมัยที่ทำงานอยู่ที่ สภ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย และได้ถวายการต้อนรับพระองค์ท่าน และมีความตั้งใจจะอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระพันปีหลวง อยู่แล้ว


จากความตั้งใจจริงสำหรับการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งนอกจากเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแล้ว สิ่งสำคัญคือการได้พักจิต ทบทวนหลักธรรม เป็นโอกาสสำคัญในการศึกษาพระธรรมวินัย ตามเส้นทางของพระพุทธศาสนา โดยอยากเสริมบุญบารมีให้คุณแม่ที่มีอายุมากอยากให้ท่านได้บุญกุศล และในขณะอุปสมบท 20 วันได้รับความรู้ทางพระพุทธศาสนา พระธรรมวินัย พุทธประวัติ หลักการปฏิบัติตนตามศีล สมาธิปัญญา ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา และหลังจากลาสิกขาก็มีความตั้งใจที่จะนำเอาหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติกับตนเองและคนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน
และแก่คนที่ควรบอกและสอน เปรียบเสมือนพื้นนาซึ่งมีทั้งนาดี นาเลว นาปานกลาง หรือดอกบัวสี่เหล่า ซึ่งพระพุทธเจ้าก็บอกว่าบุคคลเช่นใดจะอบรมและสั่งสอนได้ ในขณะที่ นายสายชล แดงนา ผอ.โรงเรียนยูงทองวิทยา อำเภอสุวรรณคูหา กล่าวภายหลังได้ลาสิกขาว่าประทับใจในการใช้ชีวิตช่วงอุปสมบท ถึงแม้นว่าจะมีระยะเวลาสั้น แต่ได้รู้ถึงแก่นแท้ของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการยึดหัวใจพระพุทธศาสนา ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว และก็จะทำตัวเป็นแบบอย่างแก่บุคลากรในโรงเรียน และพร้อมที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกับตนเองและเพื่อนร่วมงาน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น


ด้านพระครูปริญัติโชติการ เจ้าอาวาสวัดป่าโชติการาม รักษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง หัวหน้าคณะพระวิทยากรกล่าวถึงกิจวัตรประจำวันของสงฆ์ ทั้ง 10 รูป ที่มีทั้งตำรวจ ข้าราชการครู ข้าราชการพลเรือน ที่เข้าสู่ร่มกาสาวพักตร์ในครั้งนี้ ต้องตื่นตั้งแต่ช่วงเช้าตีสี่ เพื่อทำวัตรเช้า ก่อนจะออกบิณฑบาต และกลับมาปฏิบัติทำความสะอาดลานวัด ศึกษาพระธรรม คำสอน ทำวัตรเย็น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม 2565 เป็นช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่จะได้สงบจิต สงบกาย เรียนรู้และเข้าใจถึงหลักธรรมคำสอน เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีสติ และจรรโลงสังคมได้ ถือได้ว่ามีคุณภาพมากสำหรับพระนวกะรุ่นนี้


ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู