วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ที่เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมกันจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษาถวายเป็นพุทธบูชา สืบสานประเพณีไทย ที่เทศบาลเมืองนครพนมร่วมกับส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนมจัดขึ้น เพื่อสืบสานงานประเพณีเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาเป็นระยะเวลา 3 เดือนในช่วงฤดูฝน
ระหว่างวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 โดยพระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งตลอดพรรษา เพื่อไม่ให้ออกไปเหยียบต้นกล้า ข้าวของชาวนาเสียหาย และในโอกาสอันดีนี้พุทธศาสนิกชน จึงได้ร่วมกันเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ถือศีล ปฏิบัติธรรม ถวายผ้าอาบน้ำฝนและถวายเทียนพรรษาเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จุดเพิ่มแสงสว่าง ในการการศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติกิจวัตรต่าง ๆ ตลอดระยะที่จำพรรษา
ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงได้มีการหล่อเทียนขนาดใหญ่ขึ้นมาถวายเป็นพระพุทธบูชา โดยเชื่อว่าอานิสงค์ผลบุญจากการถวายเทียนจะช่วยให้ชีวิตสว่างไสว รุ่งเรือง พบเจอแต่สิ่งดี ๆ หากชีวิตมีปัญหาก็จะพบแสงสว่าง สามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ เป็นเครื่องหมายของการส่องสว่างในชีวิตคู่ ส่วนใครที่ไร้คู่ก็จะช่วยส่องทางให้พบคู่ในเร็ววัน โดยการถวายเทียนเข้าพรรษา ได้มีการจัดเป็นพิธีสวยงามมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และในสมัยรัตนโกสินทร์การถวายเทียนเข้าพรรษาถือเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญ เป็นประเพณีราชสำนักดังที่ปรากฏในเทียนรุ่งเทียนหลวงตามพระอารามต่าง ๆ โดยกิจกรรมในครั้งนี้เทศบาลเมืองนครพนมได้แบ่งเขตชุมชนต่าง ๆ ออกเป็น 3 เขต เพื่อให้แต่ละชุมชนได้มาร่วมกันประดิษฐ์เทียนพรรษาในครั้งนี้ เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เกิดความรัก ความสามัคคีมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการสืบสาน อนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป ก่อนที่จะแห่มารวมกันที่บริเวณศาลหลักเมืองเพื่อร่วมกันถวายแด่พระภิกษุสงฆ์
นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทุกคนในชุมชนจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปทำกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาดภายในวัดและบริเวณโดยรอบ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดความสวยงาม เป็นการทำนุบำรุงพระศาสนาเพิ่มเติมด้วย