ศิษย์สายตรงหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน หลวงปู่ทองใบ อัคควัณโณ(ปู่ทอง) วัดภูน้อย อำภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

วัดภูน้อยเป็นอีก 1 ที่ ที่หลวงปู่สรวงท่านไปมาบ่อย ชาวบ้านหลายๆคนเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่สรวงชอบมานั่งตรงโขดหิน (ที่ตั้งพระใหญ่ปัจจุบัน) มานั่งตำมะละกอฉันและให้พระที่วัดฉันด้วย หลวงปู่ทองใบก็บวชอยู่ที่นี่ (จึงทำให้ชาวบ้านที่นี่ตั้งพระใหญ่ไว้ตรงที่หลวงปู่สรวงมานั่ง ชาวบ้านเห็นก็งงพระใส่ชุดขาวรูปนี้ทำไมมานั่งตำมะละกออยู่ตรงนี้บ่อยๆ พอหลังมาจึงรู้ว่าเป็นหลวงปู่สรวงได้มาเล่นที่นี่บ่อยมากมาเล่นกับปู่ทองใบ ปัจจุบันหลวงปู่ทองใบอายุ 86 ปี เป็นครูบาอาจารย์ที่ชาวบ้านศรัทธาของอำเภอภูสิงห์ วิชาอาคมที่ท่านได้มาเข้มขลังยิ่งนัก (วัดที่ท่านอยู่พระหลายรูปไปจำพรรษาอยู่ต่างเจอของดีพากันออกไปหมด) วัดภูน้อยถือเป็นวัดอาถรรพ์ พระรูปไหนมาบวช แล้วไม่ปฏิบัติในศีลในธรรม ก็ต้องสึกออกไป กลายเป็นคนบ้าเสียสติก็มี แต่หลวงปู่ทองใบท่านอยู่ได้มาโดยตลอด #ประวัติ หลวงปู่ทองใบ อคฺควณฺโณ ชื่อเดิม นายทองใบ แสวงคำ เกิดวันที่ 13 สิงหาคม 2480 ปีชวด ภูมิลำเนา บ้านภูน้อย ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรของ นายรอด แสวงคำ นางนั๊ว แสวงคำ มีพี่น้องร่วมท้อง 3 คน ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบวรประชานิมิตร โดยมี พระครูประดิษฐานุวัตรเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทท่านก็ได้ไปพักจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านกล้วยศรีสุข จังหวัดสุรินทร์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย 1 ปี เมื่อถึงฤดูกาลออกพรรษาเนื่องจากทางวัดบ้านโจดน้อยไม่มีพระอยู่ขำพรรษา ทายกทายิกา ญาติโยมจึงได้กราบนิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านโจดน้อย ซึ่งท่านก็ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสบ้านโจดน้อย เป็นเวลา 2 ปี และในระหว่างนี้ท่านได้ไปศึกษาพระกรรมฐาน จากหลวงปู่หนูพันธ์ อิสฺสโร ด้วยท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดน สมถะเรียบง่าย หลังจากอุปสมบทได้ไม่นาน ท่านก็ได้ออกจาริกธุดงไปตามสถานที่ต่างๆ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก และท่านก็ได้มีโอกาสพบกับพ่อแม่ครูอาจารย์หลายรูปทั้งที่เป็นพระและโยม อาทิเช่น หลวงปู่สรวง และหลวงปู่ข้าวแห้ง จากนั้นท่านก็ได้ธุดงไปเรื่อยจนถึงวัดแก่งสะเดา อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งท่านเห็นว่าที่ตรงนี้เงียบสงบดีจึงได้พักปฏิบัติอยู่ ณ วัดแก่งสะเดา ในกาลเวลาต่อมาทางวัดไม่มีสมภารเจ้าอาวาส ญาติโยมศิษยานุศิษย์จึงได้อาราธนานิมนต์ หลวงปู่ทองใด ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส หลวงปู่ได้นำพาศิษยานุศิษย์พัฒนาวัดและเสนาสนะทางวัดจงเจริญรุ่งเรือง เวลาต่อมาท่านก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และจาริกธุดงมุงหน้ากลับบ้านเกิด และก็ได้พักอยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านภูน้อย ทางคณะกรรมการทายกทายิกา จึงได้กราบนิมนต์ท่านให้อยู่เป็นหลักชัยแก่ชาวบ้าน และท่านก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดภูน้อย หลวงปู่ท่านจำพรรษาที่วัดบ้านเกิดของท่านคือ วัดภูน้อย จนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน หลวงปู่ท่านมี อายุ 86พรรษา 26