ชัยภูมิ (ชมคลิป) ลูกแชร์นับร้อยแห่แจ้งความ ถูกเท้าแชร์โกงเงินกว่า 100 ล้าน


ชาวบ้านข้าราชการบำนาญและลูกแชร์ชาวชัยภูมิแห่แจ้งความหลังถูกเท้าแชร์หลอกให้รวมลงทุนแชร์ออนไลน์ สุดท้ายเชิดเงินหนีสูญเงินว่า 100 ล้านบาท ลูกแชร์หลงเชื่อร่วมลงทุนกว่า 100 ราย ทั้งในจังหวัดชัยภูมิและต่างจังหวัด


เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (25 พ.ค.2565)กลุ่มข้าราชการบำนาญ ชาวบ้านในจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดใกล้เคียง จำนวนกว่า 10 คน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ารุดเข้าแจ้งความ ต่อ ร.ต.อ.นิพนธ์ เพื่อนสงคราม รอง สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อเอาผิดต่อ ผู้บริหารบริษัทSmartplus(สมาร์ทพัลส) สาขาชัยภูมิ ที่ได้มาชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์ออนไลน์โดยให้เงินปันผลหรือผลกำไรสูง แต่สุดท้ายเชิดเงินหนี ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก โดยผู้เสียหายที่มาแจ้งความวันนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการบำนาญ ในวัยเกษียณราชการ ต่างนำเงินที่ได้จากบำนาญ มาร่วมลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท โดยช่วงแรกจ่ายเงินปันผลดีจนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเอาเงินปันผลที่ได้มาลงทุนต่อเพื่อให้ได้ผลกำไรเพิ่มขึ้น และต่างไปชักชวนบอกต่อญาติพี่น้องให้มารวมลงทุน แต่สุดท้ายก็โดนเชิดเงินหนี เมื่อเดินทางไปสอบถามกับถูกบ่ายเบี่ยงจากเจ้าหน้าที่ฯบริษัทฯ จึงตัดสินใจรวมตัวกันเดินทางมาแจ้งความ กลับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านนายกิติพร เศรษฐภูมิภักดี ยืนยันว่าตนและเพื่อนเพื่อน ข้าราชการบำนาญ ได้นำเงินไปลงทุนกับบริษัทSmartplus(สมาร์ทพัลส) สาขาชัยภูมิ ที่มีสาขาอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย


ซึ่งที่จังหวัดชัยภูมิ มีผู้สนใจร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากนับ 100 ราย เฉพาะกลุ่มของตนในจังหวัดชัยภูมิได้จับกลุ่มกันร่วมทุน เป็นเงินมากกว่า 100 ล้านบาท และหากรวมทั่วประเทศก็ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ในการเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักครั้งนี้ตนต้องการให้ คณะผู้บริหารบริษัทบริษัทSmartplus(สมาร์ทพัลส) นำเงินที่พวกตนมาร่วมลงทุนกับคืนมา แต่ถ้าหากคณะผู้บริหารบริษัทฯ ไม่รับผิดชอบ ตนและพวกก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด ขณะนี้ทุกคนต่างสิ้นหวังและหมดกำลังใจ เนื่องจากเงินที่นำมาร่วมลงทุนส่วนใหญ่มาจากการเก็บออมเพื่อนำไปใช้จ่ายในช่วงบั้นปลายของชีวิต บางรายก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อนำมาลงทุน ตนเชื่อว่าบริษัทดังกล่าวน่าจะ เคยทำมาแล้วหลายที่
นายกิติพร เศรษฐภูมิภักดี เล่าเพิ่มเติมว่า วิธีการขั้นตอนในการหว่านล้อมและออกกลอุบาย จนเหยื่อต้องเดินเข้าไปติดกับดัก บริษัทฯนี้จะเช่าตึก3-4คูหาโดยเลือกอาคารที่โดดเด่นเห็นสง่า ติดถนนสายหลัก พร้อมติดโลโก้ และมีพนักงานแต่งชุดยูนิฟร์อม คอยให้คำแนะนำ ภายในห้องจะมีการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา ขั้นตอนการลงทุนนั้น เป็นการร่วมลงทุนโดยเหยื่อต้องสมัครเป็นสมาชิกพร้อมซื้อผลิตภัณฑ์1ชิ้น เช่นยาสีฟัน1หลอด มูลค่า1,200 จากนั้นรอปันผลจากเงินที่ลงทุนครั้งแรก ภายใน 7วัน จะได้เงินปันผลทันที1,500บาท ในช่วงแรกเหยื่อที่หลงกล จะลงทุนไม่มาก เพียง1-2หมื่นบาท และได้คืนจริงภายใน7วัน หลังเหยื่อหลงเชื่อเหยื่อก็จะนำเงินมาลงทุนเพิ่ม รายละ2แสน ถึง1ล้านบาท จากนั้นบริษัทก็จะเริ่มบ่ายเบี่ยง อ้างว่ามีการปรับเปลี่ยนแอฟพิเคชั่น สมาชิกต้องดำเนินการใหม่ กลุ่มของตนไม่ได้รับเงินปันผล มาตั้งแต่เดือน พ.ค.2564 จนในที่สุดมั่นใจว่าถูกหลอกเมื่อเดินทางไปยังที่ทำการบริษัท ที่หมู่บ้านอรวรรณ ถนนสี่แยกโรงต้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พบเพียงพนักงาน2-3คน และปฏิเสธการจ่ายเงินที่ร่วมลงทุน และขอให้สอบถามโดยตรงกับฝ่ายบริหารอย่างเดียวเท่านั้น


ด้านร้อยตำรวจเอกนิพนธ์ เพื่อนสงคราม รอง.สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ ยอมรับว่ากลุ่มนี้เคยมีผู้ถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายราย แต่ก็ถือว่าเป็นการก่อความเสียหายคนละช่วงเวลาหากตรวจสอบแล้วพบว่า กระทำความผิดจริงก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ เบื้องต้น ต้นได้รับเป็นคดีและทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด ที่เดินทางมาแจ้งความแล้วในวันนี้ จากนั้นก็จะเชิญตัวผู้ที่ ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมเชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไก่เกลี่ย หากไม่สามารถตกลงยอมความกันได้ก็อยากจะเร่งสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อพิจารณาในการสั่งฟ้องเป็นการด่วนต่อไป

ภาพ/ข่าว วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ รายงาน

คลิป, ร้องเรียน

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.