ขอนแก่น (ชมคลิป) ตำรวจภูธรบ้านเป็ด จับกุมตัวคนร้ายก่อเหตุพยายามกระชากสร้อยคอทองคำ ก่อนจะชิงทรัพย์รถยนต์ชาวบ้านขับหลบหนี

ตำรวจภูธรบ้านเป็ด จับกุมตัวคนร้ายก่อเหตุพยายามกระชากสร้อยคอทองคำ ก่อนจะชิงทรัพย์รถยนต์ชาวบ้านขับหลบหนี พบประวัติเคยก่อเหตุชิงทรัพย์มาโชกโชน และเพิ่งพ้นโทษมา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ

           23 พ.ค. 2565 ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ คนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ชิงเอารถยนต์ของประชาชนภายในหมู่บ้านพรศิริ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังถูกพลเมืองดีช่วยกันไล่จับกุมตัว หลังจากที่คนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์กระชากสร้อยคอทองคำของชาวบ้านใกล้กับมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่กระชากไม่สำเร็จ จึงถูกพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันไล่คิดตามจับกุมตัว แต่คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมาตามถนน ก่อนจะทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ แล้ววิ่งเข้ามาหลบซ่อนตัวภายในหมู่บ้านพรศริริ และถอดเสื้อแจ็คเก็ตของบริษัทแกร็ป และหมวกกันน็อคสีดำซุกซ่อนไว้ในกอต้นกล้วย บริเวณหลังบ้านเลขที่ 777/57 ก่อนจะถูกพลเมืองดีตามมา คนร้ายจึงวิ่งข้ามกำแพงบ้านที่อยู่ติดกัน มาชิงเอารถยนต์ของเจ้าของรถที่อยู่ถัดมาอีก 2 หลังไป

พันตำรวจโทสุทัศน์ ไพบูลย์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.บ้านเป็ด กล่าวว่า  หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากผุ้เสียหาย ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ทันที ด้วยการสืบสวนจากพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งนำตัวแฟนสาวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนกระทั่งทราบชื่อว่า นายกิตติชัย หรือดิว ทิมอรรถ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี  จึงติดตามเส้นทางหลบหนี กระทั่งพบรถยนต์เก๋งคันที่คนร้ายจี้ชิงมา จอดไว้ภายในตลาดอู้ฟู่ ถนนมิตรภาพ ต.เมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น ส่วนคนร้ายหลบหนีไป กระทั่งจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง ด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมกับตรวจยึดของกลางได้รถยนต์เก๋งฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กท 5662 มหาสารคาม 1 คัน  รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน มีดพกสั้นปลายนแหลม. 1 เล่ม หมวกกันน็อค เสื้อคลุมบริษัทแกร็ปและเสื้อลายพราง ที่สวมใส่ก่อเหตุ จึงนำตัวมาสอบสวน แต่เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ

  พันตำรวจโทสุทัศน์ ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ พบเคยก่อเหตุเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 5 ครั้ง และถูกต้องโทษดำเนินคดี ก่อนจะพ้นโทษเมื่อปี 2561  จากนั้นได้มาทำงานที่จังหวัดขอนแก่น และมาก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ดอีก 4 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งจะใช้ยานพาหนะก่อเหตุไม่ซ้ำกัน จะไปยืมรถจักรยานยนต์จากคนที่รู้จักมาก่อเหตุ พร้อมกับเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่สลับเปลี่ยนหลังก่อเหตุ เพื่อไม่ให้ตำรวจไล่ตามจับกุมตัวได้ง่าย ซึ่งตำรวจได้ติดตามจับกุมมาอย่างต่อเนื่องกระทั่งมาก่อเหตุครั้งล่าสุดจนนำไปสู่การจับกุม ถึงแม้ผู้ต้องหาจะยังให้การปฎิเสธแต่พนักงานสอบสวนยืนยันมีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้

   นางโมราห์ มหาหิงค์ คือหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 ได้เดินทางมาตรวจดูของกลางและรูปพรรณสัณฐานคนร้ายยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ตนเอง โดยวันเกิดเหตุขณะที่ตนเองได้ไปทำธุระ ในปั๊มนำมัน คนร้ายได้ย่องมาด้านหลัง แล้วกระชากที่สร้อยคอทองคำตนเอง 3 ครั้ง จนสร้อยคอขาด ขณะที่ตนเองก็พยายามยามขัดขืนจนทำให้รถจักรยานยนต์ล้มและและได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ ส่วนคนร้ายหลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป