ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ธำรงวินัย สั่งการผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัดและหัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัดให้คัดสรรพนักงานสอบสวนที่มีคุณภาพมีจิตใจบริการมารับใช้ประชาชน
จากการเปิดเผยของ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4/โฆษก ภ.4 ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ เสนอข่าวเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 65 ว่า “พนักงานสอบสวน สภ.กลางใหญ่ จ.อุดรธานี ยศ ร.ต.อ. ได้เรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาในคดีขับเสพโดยอ้างว่าเป็นค่าน้ำมันรถนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องศาลและขอยืมเงินอ้างว่าจะไปซื้อเบียร์ฝากอัยการ” นั้น
สื่อ-สร้าง-สาร ภ.4 ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 65 พล.ต.ท. ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี นำตัว ร.ต.อ. กิระศักดิ์ วาสิงหน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กลางใหญ่ มาประจำ ศปก.ภ.จว.อุดรธานี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้ฝึกเพื่อธำรงวินัยทุกวัน ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 65 ตำรวจ สภ.กลางใหญ่ จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ในข้อหา เป็นผู้ขับขี่รถโดยเสพยาเสพติดให้โทษ(ยาบ้า) ต่อมาวันที่ 12 เม.ย. 65 ร.ต.อ.กิระศักดิ์ วาสิงหน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กลางใหญ่ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งฟ้องต่อศาลแขวงอุดรธานี โดยมีมารดาของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขออาศัยเดินทางไปด้วย ระหว่างเดินทางไฟแจ้งเตือนน้ำมันของรถยนต์ส่งผู้ต้องหาแจ้งเตือน ร.ต.อ.กิระศักดิ์ฯ จึงได้ขอยืมเงินจากมารดาของผู้ต้องหาคนละ 100 บาท รวม 300 บาท เพื่อเติมน้ำมันรถยนต์ส่งผู้ต้องหา
และขอยืมเงินจากมารดาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อีกรวมจำนวน 1,900 บาท บอกว่าจะนำไปซื้อเบียร์ฝากอัยการและสัญญาว่าเดินทางกลับแล้วจะคืนให้ แต่เมื่อเดินทางกลับถึงแล้ว ร.ต.อ. กิระศักดิ์ฯ ไม่คืนเงินยืมให้กับมารดาผู้ต้องหาตามที่ตกลงกันไว้ทำให้มารดาของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่พอใจ และพากันไปปรึกษานายจ้างของผู้ต้องหาซึ่งนายจ้างก็เป็นเพื่อนกับ ร.ต.อ. กิระศักดิ์ฯ แต่ตกลงกันไม่ได้ นายจ้างจึงพามารดาของผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านผือ ส่วนภาพที่ปรากฏว่า ร.ต.อ. กิระศักดิ์ฯถือเบียร์กระป๋องนั้น มารดาของผู้ต้องหายืนยันว่าไม่เห็น ร.ต.อ.กิระศักดิ์ฯ ดื่มเบียร์กระป๋องตามภาพขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีตำรวจแต่อย่างใด นายจ้างของผู้ต้องหายืนยันว่า ภาพของ ร.ต.อ.กิระศักดิ์ฯที่ถือเบียร์กระป๋อง ตนนำมาเพื่อประกอบการร้องขอความเป็นธรรมกรณีที่ ร.ต.อ. กิระศักดิ์ฯ ยืมเงินจากมารดาของลูกจ้างของตนแล้วไม่ยอมคืนเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นใดและตนไม่ได้เป็นคนถ่าย จำไม่ได้ว่าภาพมาจากไหน ใครส่งให้ แต่อย่างไรก็ตามคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นว่า การกระทำของ ร.ต.อ. กิระศักดิ์ฯ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะประพฤติตนที่ไม่สมควร จะได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาโทษทัณฑ์ต่อไป
ที่ผ่านมากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติกรรมเสพสุราเป็นอาจิณจนกระทบต่อการปฏิบัติราชการและภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 65 ถึง 1 เม.ย. 65 พล.ต.ท.ยรรยงฯ ผบช.ภ.4 ได้จัดให้มีการฝึกอบรมโครงการ “Police Family” ที่ ศฝร.ภ.4 โดยนำตำรวจที่มีพฤติกรรมข้างต้นและสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา จำนวน 29 นาย มาบำบัดรักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้สามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสุขภาพ พลานามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ระยะเวลาดำเนินการ 5 สัปดาห์ โดย 2 สัปดาห์แรกเป็นการเข้ารับการตรวจประเมินจากแพทย์และรับคำแนะนำตลอดจนรับยาไปรับประทานเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อีก 3 สัปดาห์เข้ารับการฝึกอบรมจากแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับวิทยากรที่มีคุณภาพมาร่วมให้ความรู้และปรับพฤติกรรมให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น หลับจบโครงการได้ติดตามประเมินผลปรากฏว่า ดื่มลดลง 50%, เลิกเด็ดขาด 40.63 % และดื่มปกติ 9.38 %