นักโทษชายติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเสียชีวิตและได้นำร่างมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัด แต่ปรากฏว่าไฟเผาร่างไม่ไหม้ แต่โลงไหม้ไม่เหลือซาก แม่เผย เล่นของทั้งสามีและลูก เผาไม่ไหม้ทั้งคู่ ต้องทำพิธีแก้ถึงเผาร่างได้
10 เม.ย. 2565 ที่วัด บุญบาลประดิษฐ์ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นางคำพู่ คำสุข อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 บ้านสำราญหินลาด หมู่ 8 ต.กุดกว้าง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พร้อมญาติๆเดินทางมาเก็บอัฐิของนาย เสนาะ คำสุข อายุ 41 ปี ลูกชายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำ และนำศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.2565 ที่ผ่านมา โดยพบว่าต้องทำการจุดไฟเผาข้ามวันถึง 3 รอบจึงไหม้หมดในช่วงเช้าวันที่ 9 เม.ย.2565 ซึ่งเป็นความเชื่อว่าเกิดจากที่ผู้ตายสักยันต์ลงอาคมไว้ที่ตัวทำให้ไม่สามารถเผาร่างได้ และเช้าวันนี้ทางแม่และญาติได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายและเตรียมเก็บอัฐิบรรจุใส่ลงในโกสไปไว้ที่วัดในบ้านด้วย โดยมีชาวบ้านมาร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก
โดยนาง คำพู่ แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่าภายหลังจากเก็บอัฐิลูกชายจากวัดกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมเก็บใส่โกสไว้ที่วัดว่า ลูกชายติดเชื้อโควิด-19ในเรือนจำ หมอบอกว่าเชื้อลามลงปอดจนเสียชีวิต พอนำศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัด พระที่ทำพิธีบอกว่าร่างเผาไม่ไหม้ ไหม้เพียงโลงศพต้องซื้อน้ำมันมาอีกรอบ ซึ่งพอเปิดดูก็พบว่าร่างกายยังอยู่เหมือนเดิมไหม้เพียงโลงศพ และที่โลงหรือศพก็ไม่ได้เปียก ซึ่งพระท่านก็บอกว่าใช้น้ำมันไปกว่า 200 ลิตร ใช้เวลาเผา 3 รอบร่างจึงถูกเผาไหม้หมด ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องของอาคมที่ลูกชายไปหาเมื่อตอนสมัยหนุ่มๆประมาณ 20 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าจากอาจารย์ไหน ซึ่งลูกชายได้สักเสือเผ่นไว้ที่กลางอกและสัก 9 ยอดไว้ที่ท้ายทอย ซึ่งที่เชื่อว่าเกิดจากของดีมีอาคมนั้น เพราะสามีตนเองก็เล่นของเช่นกัน และเรียนวิชาของจริง แต่ตนเองก็ไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้ ทราบเพียงเท่านี้ ซึ่งตอนสามีเสียชีวิตก็เผาร่างไม่ไหม้ จนต้องให้ผู้ที่รู้วิธีแก้ของมาทำพิธีให้จนสามารถเผาร่างของสามีได้ กระทั่งมาถึงลูกชายก็เป็นเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดตนเองก็ทราบเพียงเท่านี้
ได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนของผู้ตายไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เรื่องของดี อาคมนั้นตนเองและผู้ตายได้ของดีมาพร้อมๆกัน และยืนยันว่ามีจริง เป็นของที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามตกทอดกันมา และของตนเองและผู้ตายนั้นเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว ส่วนผู้ที่ทำของให้นั้นทราบเพียงว่าเป็นพระแต่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ในเรื่องดังกล่าวนั้นก็ขอให้เป็นไปในเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ในส่วนตนเองนั้นเชื่อว่าเป็นของจริงและมีอยู่จริงเพราะก็มีอะไรให้เห็นให้เชื่อมาตลอด และก็ไม่อยากจะให้ตีแผ่เรื่องราวออกไปมากกว่านี้