เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี พ่อ แม่ เด็กหญิง(เอ)นามสมมุติ อายุ 12 ขวบ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ไพบูลย์ พ่วงจินดา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อความดำเนินคดี นายอนุชา อายุ 19 ชาวต.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น.วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 14 .00 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผกก.สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ฝ่ายสืบสวน สภ.ห้วยขะยุงได้จับกุมตัวนายอนุชา แจ้งข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย กระทำอนาจารบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายและพรากผู้เยาว์ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีเพื่อการอนาจารแม้เด็กนั้นจะยินยอม” โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า เมื่อเวลประมาณ 20.00 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ตนเองกับเด็กหญิง(เอ)นามสมมุติ อายุ 12 ขวบ ได้ไปฟังสวดพระอภิธรรมศพที่วัดป่าหัวสะพาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โดยใช้อุบายหลอกให้ไปช่วยยกน้ำในห้องเก็บของพร้อมกับตนเอง จึงได้ทำการบังคับข่มขืนที่ห้องเก็บของภายในวัด 1 ครั้ง และต่อมายังได้พาเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ไปข่มขืนเป็นครั้งที่ 2 ที่บริเวณริมคลองทางรถไฟ หมู่ที่ 6 ต.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เวลา 21.00 น. อีก 1 ครั้ง พร้อมข่มขู่ห้ามไม่ให้ไปบอกใคร โดยขณะเกิดเหตุเด็กหญิง(เอ)นามสมมุติได้พยายามส่งข้อความทางไลน์ถึงญาติซึ่งเป็นผู้หญิง เมื่อเวลา 21. 50 น. ให้ไปบอกตาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ญาติคนดังกล่าวนอนหลับ ไม่ได้เปิดอ่านไลน์ จนกระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 6 ก.พ. 65 ญาติคนดังกล่าวได้ตื่นมาเปิดอ่านไลน์ และนำเรื่องไปแจ้งกับตาของเด็กหญิงเอ นามสมมุติ ต่อมาแม่ของเด็กได้สอบถาม จึงทราบความจริง จึงได้เดินทางมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผกก.สภ.ห้วยขะยูง กล่าวว่า ในทางการสอบสสวนเราได้เร่งรัดให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและไม่ให้ล่าช้า การดำเนินการในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ทางตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดสหวิชาชีพเรียบร้อยแล้วซึ่งอัยการจังหวัดนัดทีมสหวิชาชีพในวันที่ 23 ก.พ. นี้ มองว่าช้าไปจึงได้รวบรวมพพยานหลักฐานทางการสืบสวนมาเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอ รวมถึงผลการตรวจและลงความเห็นของแพทย์ว่ามีผลการล่วงละเมิดทางเพศและมีพยานหลักฐานในเรื่องของพยานบุคคลน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำผิดจริง จึงได้เรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันนี้เราขออำนาจศาลขอหมายขังเลย
พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผกก.สภ.ห้วยขะยูง กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนอีกที่มีข่าวว่าเพื่อนบ้านใกล้ชิด ยังมีคนรู้จักได้ก่อเหตุข่มขืนมาราธอนมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้น ป.2 จนถึงชั้น ป.5 ซึ่งล่าสุดได้หลอกเข้าไปข่มขืนถึง 3 ครั้งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ละครั้งจะให้เงิน 200-300 บาท พร้อมข่มขู่ห้ามบอกใคร ขณะเดียวกัน ยังมี นายบี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี บังคับให้เด็ก สำเร็จความใครให้โดยใช้ปากอม อวัยวะเพศ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 65 ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งต่างกรรมต่างวาระและต่างวันกันด้วยก็ต้องสอบเด็กให้เกิดความชัดเจน ก่อนว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไร วันที่เท่าไหร่ ซึ่งมันต่อเนื่องกันมา ซึ่งตอนนี้น่าจะเป็นแค่คำกล่าวอ้างของผู้ปกครองเด็ก เพราะว่ายังไม่ได้สอบปากคำเด็กในรูปแบบของการสอบสวนคดีเด็กแต่ตอนนี้สามารถดำเนินคดีได้และแจ้งข้อหาได้แล้วคือกรณีเกิดล่าสุด ต้องดำเนินการอย่างรัดกุมเป็นธรรม
