ขอนแก่น – ชาวบ้านป่าหม้อ ต.พระยืน เดือดร้อน หลังนายทุนล้อมรั้วลวดหนามปิดกั้นทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน

ชาวบ้านป่าหม้อ ต.พระยืน  จ.ขอนแก่น  เดือดร้อน หลังนายทุนล้อมรั้วลวดหนามที่ดินปิดกั้นทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านพร้อมเส้นทางขนย้ายพืชพันธุ์ทางเกษตร  ทั้งที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมานานกว่า 30 ปี วอนสำนักงานยุติธรรมเข้าช่วยเหลือ

           วันที่ 5 ก.พ. 65 นายทศพร นิลศิริ ทนายความพร้อมด้วยนายบุญเรือง ชารีดี     ชาวบ้านป่าหม้อ ต.พระยืน อ.เมือง  จ.ขอนแก่น และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมตัวกันเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อขอความช่วยเหลือและขอความเป็นธรรม หลังได้รับความเดือดร้อนจากนายทุน ที่ล้อมรั้วลวดหนามที่ดิน  ทำปิดกั้นทางสัญจรเข้าออกบ้านของชาวบ้านรวมทั้งเส้นทางขนพืชผลทางเกษตร   ที่ใช้สัญจรมานานนับ 30 ปี

           บุญเรือง ชารีดี   ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เล่าว่า เดิมทีที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของนางปุย มาพระยืน จากนั้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วได้แบ่งที่มรดกให้ลูก 9 คน  โดยได้แบ่งที่เป็นแนวยาวและได้แบ่งส่วนที่เป็นทางเข้าออกร่วมกัน ขนาดกว้าง 3 เมตร  ระยะทาง 51 เมตร ต่อมาที่ดินที่อยู่ติดกับสาธารณะและอยู่ติดกับทางเข้าออก รวมทั้งติดถนนหลัก ได้ถูกขายให้กับนายทุนคนหนึ่งไป  ขณะนั้นเดียวกันทางเทศบาลพระยืนมิ่งมงคล ได้เข้ามาปรับปรุงถนน ขยายเขตไฟฟ้าและประปาในเส้นทางดังกล่าว และตอนนั้นเจ้าของที่ดินทั้ง 9 คนก็ไม่มีใครคัดค้านแต่อย่างใด ทำให้ทางเทศบาลนำไฟฟ้ามาติดตั้ง จนกระทั่งในปี 2564 เจ้าของที่ดินซึ่งเป็นนายทุน ได้ล้อมรั้วลวดหนามในที่ดินของตนเอง เพื่อไม่ให้สัญจรผ่าน ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ถัดจากที่ดินแปลงดังกล่าวกว่า 10 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่เส้นทางให้สัญจร ชาวบ้านก็ต้องลักลอบใช้เส้นทางเดิม ต่อมาเพื่อนายทุนทราบ จึงได้รถแมคโคร มาทำการขุดหน้าดินให้เป็นหลุม เพื่อกันไม่ให้ชาวบ้านผ่าน นอกจากนี้หากชาวบ้านต้องการใช้เส้นทางเดิม ให้หาเงิน จำนวน 300,000 บาท มาชื้อที่ดิน แต่ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาชื้อ อีกทั้งเส้นทางนี้ก็ใช้สัญจรมานานแล้ว   จึงอยากขอความเป็นธรรมและขอความเห็นใจช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เพราะทุกวันนี้ไม่สามารถเข้าไปนอนในบ้านของตนเองได้

       ขณะที่ทางด้านนายทศพร นิลศิริ ทนายความ เปิดเผยว่า ถนนเส้นทางดังกล่าว ชาวบ้านได้ใช้สัญจรมานานตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นยา โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินคนก่อน มาโดยตลอด จึงมีสถานะเป็นภาวะจำยอมตามกฎหมายเรื่อยมา อีกทั้งตอนที่ทางนายกเทศบาลพระยืนมิ่งมงคลคนก่อน ได้เข้ามาทำถนนลูกรังและติดตั้งเสาไฟฟ้า และมีสภาพเป็นทางสาธารณะ ตั้งแต่ปี 2561 เจ้าของที่ดินคนก่อนก็รับทราบและไม่มีการโต้แย้งแต่อย่างใด จึงถือว่า เป็นการยินยอมโดยปริยาย เมื่อเป็นทางสาธารณะจะไม่มีใครสามารถอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าวได้ แต่การที่เจ้าของที่ดินคนใหม่ มาล้อมรั้ว โดยอ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของตน  ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะถนนเส้นนี้ได้รับการยินยอมจากเจ้าของที่ จึงเป็นทางสาธารณะโดยปริยาย

           อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้ไปร้องเรียนกับทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่นมาแล้ว  แต่ได้รับการปฏิเสธจากนายทุนในการไกล่เกลี่ย

 

ร้องเรียน

Related posts

404 Not Found
404
Sorry, the page you visited does not exist.
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.