วันที่ 22 ม.ค.2565 กรณีแฟนเพจ ReReef เผยแพร่ภาพกับดักช้างป่า พร้อมระบุข้อความว่า “โหดร้ายมากๆ กับกับดักช้างนับร้อยอันรอบบ่อน้ำ ทั่วด่านช้าง ติดแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยจะทำแบบนี้กับช้างได้ลงคอ เข้าใจว่าคงไม่พอใจที่ช้างเดินเข้ามาในพื้นที่เกษตรกรรมของตัวเองและอาจสร้างความเสียหาย แต่วิธีนี้ไม่ช่วยอะไรเลย นอกจากทำให้ช้างบาดเจ็บ และอาจติดเชื้อ อักเสบถึงเสียชีวิตได้ ตะปูหลายอันก็ขึ้นสนิมเขรอะ เป็นบาดทะยักได้ง่ายๆ ลองนึกถึงช้างที่ต้องเดินป่าไปพร้อมกับแผลตะปูยักษ์ตำตีน เจ้าหน้าที่รายงานว่าบางอันช้างเหยียบไปแล้วด้วย เอาใจช่วยให้ช้างปลอดภัย จะอย่างไรก็ต้องหาทางให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ปลอดภัยทั้งคนและช้าง #HumanElephantConflict #ภูหลวง”
ภาพดังกล่าว มีประชาชน และกลุ่มนักอนุรักษ์ แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอันตราย และอาจทำให้ช้างป่าที่เหยียบติดเชื้อจนเสียชีวิต
หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง กล่าวอีกว่า กรณีเจ้าหน้าที่พบกับดักช้าง บริเวณรอยต่อพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ว่า กับดักช้างเรือใบตีติดกีบกระดานไม้และนำไปวางไว้รอบบ่อน้ำที่เป็นแหล่งอาหาร-น้ำของช้าง ตะปูขนาดความยาว 5 นิ้ว จำนวน 80 ตัว ติดแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง บริเวณ บ้านวังมน หมู่ 5 ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย ซึ่งเป็นที่ทำกินของชาวบ้านด้วย ซึ่ง ช้างป่าภูหลวงนั้นครอบคุมพื้นที่ อ.วังสะพุง ด่านซ้ายและภูเรือ ช้างป่าฯจะลงมาหากินพื้นที่ใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ลงมากัดกิน ทำลายพื้นที่การเกษตรของประชาชน จนท. จึงติดตามดูว่ามีช้างตัวไหนออกไปนอกเขตบ้างหรือไม่
จนกระทั่งวันนี้พบกับกับดักช้างรอบบ่อน้ำ มีลักษณะเป็นไม้วงกลมและตอกตะปูติดไว้ โดยหันปลายแหลมขึ้น เป้าหมายน่าจะเป็นช้างอย่างเดียว ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเคยพูดคุยกับชาวบ้านก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อทำความเข้าใจและไม่ใช้ความรุนแรงต่อสัตว์ป่า แต่นอกจากปัญหาจะไม่จบแล้ว ยังเกิดปัญหาขึ้นต่อเนื่อง อีกด้วย กับดักช้างลักษณะนี้อันตรายมากและผิดกฎหมายด้วย ถ้าเป็นสนิมแล้วช้างเหยียบลงไป คงเป็นแผลติดเชื้อแน่นอน เรื่องนี้มันมีหลายวิธีที่จะช่วยกันดูแลพื้นที่ดูแลสัตว์ป่า คงจะต้องหาวิธีในการดูแลซึ่งกันและกัน ขณะนี้ทางราชการได้ใช้กลุ่มอาสาเฝ้าระวังช้างในพื้นที่ภูหลวงตามพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ที่เป็นหมู่บ้านรอบแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เข้ามาช่วยเรื่องการทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์เรื่องการดูแลช้างและดูแลสัตว์ป่าในพื้นที่กับผู้นำชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่เข้าใจและอยู่กับช้างอย่างปลอดภัย ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้โพสต์รณรงค์ “หยุดกับดักสัตว์ป่า มหันตภัยทำร้ายชีวิต” การเสียชีวิตเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่การมีชีวิตรอดและทุกข์ทรมานคือสิ่งที่เลวร้ายกว่า สายด่วนพิทักษ์ป่า
ด้านนายไสว เจริญศรี นายอำเภอภูหลวง กล่าวว่า สำหรับการทำกับดักช้างป่าครั้งนี้ ได้แจ้งความกับ สภ.ภูหลวงเพื่อดำเนินคดีไว้แล้ว ผู้กระทำเป็นชาวบ้าน ต.ภูหอ อ.ภูหลวง เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกช้างป่าลงมาทำลายพืชผลการเกษตรได้รับผลกระทบ ด้วยความโกธรช้างจึงทำกับดักขึ้น การกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมายและไม่ทำให้ช้างกลัวแต่จะทำให้ช้างป่าดุมากยิ่งขึ้น ทางแก้ไขนั้นได้ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัดเลย เพื่อทำเสาไฟฟ้ารั้วไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่จะได้ผลดีมาป้องกันช้างป่าฯ ซึ่งก็อยู่แล้วแต่ไม่ครอบคลุมไม่เพียงพอ พร้อมกับได้ร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง สถานีวิจัยช้างป่าภูหลวงและหัวหน้าโครงการอาหารช้างป่าภูหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนทีมอาสาเฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับโครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวงจะเข้าไปคอยเฝ้าระวังเป็นช่วงเวลาตอนบ่ายและดึกๆช่วงนี้ก็เป็นช่วงประชาชนทำการออกกรีดยางพารา อีกด้วย เฝ้าระวังช้างป่าภูหลวง จนท.สถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวงได้เข้าตรวจสอบและติดตามช้างป่าตามที่ได้รับแจ้งพบช้างป่าภูหลวงลงมายังหมู่บ้าน จำนวน 3 ตัว บริเวณสระครูบุญ ต.ภูหอ อ.ภูหลวง ได้แจ้งแจ้งเตือนเกษตรกรที่เข้าพื้นที่ การเกษตรใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ในช่วงช้างป่ามักออกมาหากิน
นายวันชัย สิมมาเศียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มอบอำนาจให้ นายเนียต บุตะทา พนักงานพิทักษ์ป่า ส.3 หน่วยพิทักษ์ป่าภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เฉลียวเดช วิริยะธนากุล สว.ได้บ้านบ้านสวนป่า ต.แก่งศรีภูมิ-บ้านวังวน ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าผู้กระทำความผิดน่าจะมีมากกว่า 2 คนที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และเป็นครั้งแรกที่พบกับดักช้าง
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย

Related posts
It may be that the access link is wrong or the file does not exist.