เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ทองอินทร์ ชุตินธโร วัดนิคมกิตติยาราม จ.อุบลราชธานี หาปัจจัยร่วมสร้างศาลาปันสุขวัดนิคมกิตติยาราม

ประวัติหลวงปู่ทองอินทร์ชุตินธโร พระครูประโชติกิตติคุณ อายุ 72 ปี 47 พรรษา ปัจจุบันดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
นามเดิม ชื่อ นายทองอินทร์ คำอุด เกิดวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ 2493 บ้านเกิด ต.หนองบัวฮี อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลวงปู่เมตตาเล่าว่าเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กท่านนิสัยเรียบร้อย พูดน้อยเป็นคนเงียบๆรักการศึกษาเล่าเรียนโดยตั้งแต่เมื่อครั้งยังเด็กได้รักการศึกษา แต่ด้วยฐานะทางครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะหรือความร่ำรวยมากนัก จึงทำการการศึกษาต่อเป็นไปได้ยาก ท่านเลยต้องการแบ่งเบาลดภาระด้วยการบวชเรียน โดยในขณะก่อนที่ท่านจะได้รับบรรพชาเป็นสามเณร ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าหากร่ำเรียนจบและความตั้งใจหลังจากบวชเรียนจบแล้ว ได้อธิษฐาน4อย่าง อยากศึกษาต่อ อยากเรียนหมอลำเพื่อเป็นหมอลำคู่ อยากเรียนด้านเครื่องจักร อยากบวชต่อตามความต้องการท่านได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ16ปี
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2508 ที่วัดบัวขาว ต.หนองบัวฮี อ.พิบูลมังสาหาร ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ใฝ่เรียนทำให้เป็นที่รักใคร่และเมตตาแก่ครูบาอาจารย์ ทำให้ท่านได้วิชาทั้งทางโลกทางธรรม โดยได้รับความเมตตาจากอุปัชฌาย์แดง วัดหนองบัวฮี เป็นพระอุปัชฌาย์จวบจนเมื่อเข้าสู่อายุได้25ปี หลังจากที่ได้ศึกษาเล่าเรียนและได้ปรนนิบัติตอบแทนคุณครูบาอาจารย์ เมื่อถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคลยิ่ง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2517 ที่วัดนิคมกิตติยาราม ท่านได้รับความเมตตาจาก พระเทพสิทธิมุนีตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้น)
เป็นอุปัชฌาย์โดยได้รับสมญานามว่า ชุตินธโร
หลวงปู่เล่าว่าเมื่อบวชเป็นพระแล้วเมื่อท่านทราบว่ามีครูบาอาจารย์รูปใด เก่งวิชาด้านไหนท่านมักจะเดินทางไปกราบขอร่ำเรียนวิชาตลอดจนออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆเพื่อศึกษาร่ำเรียน โดยเมื่อครั้งสมัยเป็นสามเณรด้วยความครึกคะนองตามประสาเด็กหนุ่มด้วยความอยากรู้อยากลองจึงได้ไปขอร่ำเรียนวิชาอยู่ยงคงกระพันจากหลวงปู่มั่น ทัตโต เมื่อคราวหลวงปู่มั่น ท่านมาที่วัด แต่หลวงปู่มั่น ท่านเพียงแค่ทำให้เห็น แต่ไม่ได้สอน หากแต่ท่านให้เห็นให้คิดว่าคนเราไม่มีอะไรยั่งยืน มีเกิดแก่เจ็บตาย ไม่มีใครหลุดพ้นได้ ตามวัฎจักรสงสาร เมื่อคิดได้ดังนั้น หลวงปู่จึงให้สัจจะกับตนเองว่าหลังจากนี้เราจะร่ำเรียนแต่วิชาที่เมตตาและช่วยเหลือคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยากเพื่อช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นหลุดพ้นจากความทุกข์ ท่านจึงเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนจากที่ต่างๆเรียกว่าสมัยนั้นครูบาอาจารย์รูปไหนเก่งด้านเมตตาท่านจะไปฝากตัวของร่ำเรียนวิชาด้วย เมื่อเวลาล่วงมา พ.ศ. 2538 ท่านได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี