ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มีนางบานเย็น กินนอน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 452 หมู่1 ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ถือประเป๋าเงินสีน้ำตาล แจ้งว่า เก็บได้บริเวณป้ายหน้าหน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านผือ ถนนชนบทบำรุง เขตเทศบาลบ้านผือ ภายในมีเงินสด 12,017 บาท โดยมีบัตรประชาชน ใบขับขี่รถยนต์ ชื่อ น.ส.จุฬาลักษณ์ แปลเพ็ง อายุ 33 ปี ชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี บัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ และใบสลิป ยอดกดเงินจำนวน 10,000 บาท
นางบานเย็น บอกว่า ตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายส่งไก่สด ขณะตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์จะไปส่งไก่ให้ลูกค้า ผ่านโรงพักบ้านผือ ได้มองเห็นกระเป๋าเงินสีน้ำตาล ตกหล่นอยู่ที่พื้นถนนใกล้กับตะแกรงเหล็กปิดท่อระบายน้ำ จึงได้ขับรถย้อนกลับมา จอดรถลงไปเก็บกระเป๋าเปิดดู พบเงินจำนวนมาก ตนคิดว่าเจ้าของกระเป๋าจะต้องเสียดาย และเดือดร้อนมาก เพราะตนเคยทำกระเป๋าเงินหาย แม้ว่าเงินจะไม่มากยังรู้สึกเสียดาย ตนจะนำกระเป๋ามาแจ้งตำรวจเพื่อหาเจ้าของ แต่ตนก็ต้องรีบไปส่งไก่ให้ลูกค้าก่อน เสร็จแล้วจึงนำมาแจ้งตำรวจ
ตำรวจได้ติดต่อ น.ส.จุฬาลักษณ์ เจ้าของกระเป๋าเงิน ว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินได้และนำมาแจ้งที่โรงพัก เมื่อ น.ส.จุฬาลักษณ์เดินทางมาถึง ตำรวจได้มอบกระเป๋าให้ตรวจสอบ พบเงินและเอกสารทางราชการอยู่ครบ และบอกว่า ด้วยความดีใจว่า เมื่อเช้านี้ตนได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายจัดงานศพญาติ ที่พึ่งเสียชีวิต เสร็จแล้วได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของที่ตลาดผ่านหน้าโรงพัก แต่ได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม เมื่อล้วงกระเป๋ากางเกงจะเอาเงินจ่ายค่าน้ำมัน ปรากฏว่ากระเป๋าเงินหล่นหาย จึงไปแจ้งตำรวจ ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เงินคืน จึงมาแจ้งความเป็นหลักฐานไปทำบัตรประชาชน และใบขับขี่ใหม่เท่านั้นเอง พอมารู้พลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินได้ รู้สึกดีใจเพราะได้เงินคืนทุกอย่าง
ไม่คิดว่าจะมีคนดีแบบนี้ ขอบคุณพลเมืองดี ที่เก็บกระเป๋าเงิน แล้วนำมาแจ้งความกับตำรวจ นำมาคืนให้เจ้าของ ไม่คิดว่าตนจะได้คืนในยุคที่ทุกคนลำบาก ในสถานการณ์การระบาดโควิด19” พร้อมกับไหว้ขอบคุณ นางบานเย็น พลเมืองดี