อุบลราชธานี – แห่แจ้งความหลังถูกพนักงานบริษัทอ้างว่าเป็นเซลล์ของบริษัทอินเตอร์เน็ต หลอกจ่ายเงินติดตั้งระบบเน็ตบ้านพร้อมซิม ความเร็วสูง สุดท้ายหลอกให้โอนเงินสูญเงินฟรี!
เมื่อวันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุพศิน สุโภภาค อายุ 36 ปี พร้อมด้วย นางบุบผา แก่นกอ อายุ 56 ปีและนางสาวสิริพร ขุนตาแสง อายุ 34 ปี ชาวอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วิรุฬห์ กลางคำ รอง สารวัตร(สอบสวน)สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ว่าถูกนายพินิจ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ชาวต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลอกลวงอ้างว่าทำงานเป็นเซลล์ของบริษัทติดตั้งอินเตอร์เน็ต รับติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตบ้านพร้อมซิม โดยการหลอกลวงให้จ่ายเงินค่าติดตั้งให้ แต่มาทราบภายหลังว่านายพินิจ ได้พ้นสภาพการพนักงานไปแล้วและได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายครั้งในหลายพื้นที่ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
จากการสอบสวนนายสุพศิน สุโภภาค อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333/147 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ให้การว่า ถูกนายนายพินิจ สิงห์แจ่ม หลอกลวงอ้างว่าทำงานเป็นเซลล์ของบริษัทอินเตอร์เน็ตที่หนึ่ง ติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตบ้านพร้อมซิมโดยหากผู้แจ้งสนใจให้โอนเงินค่ามัดจำกล่องอินเตอร์เน็ต 799 บาท จะได้คืนในวันที่ติดตั้งจึงโอนเงินให้ จากนั้นนายพินิจแจ้งว่าผู้แจ้งมียอดที่ค้างชำระจำนวน 699 บาท กับบริษัททรู แล้วนายพินิจก็บอกให้โอนเงินมาให้แล้วจะเคลียร์ปิดยอดค้างชำระให้ ผู้แจ้งหลงเชื่อว่านายพินิจเป็นเซลล์บริษัทอินเตอร์เน็ต จริงจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้โดยผ่านแอพธนาคารกสิกรไทยชื่อผู้แจ้งโอนไปให้บัญชีออมสินของนายพินิจสิงห์แจมโอนวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ต่อมานายพินิจแจ้งว่าต้องมีค่าสายไฟอีกราคา 675 บาทโดยบอกจะคืนในวันที่ติดตั้งและต้องโอนเพิ่มอีก 528 บาท จึงโอนให้อีก รวมเป็นเงินทั้งหมด 2,701 บาท จากนั้นเมื่อถึงวันที่นัดติดตั้ง นายพินิจไม่มาตามนัดและขอเลื่อนติดตั้งโดยอ้างว่าตรวจ โควิด-19 ไม่ผ่าน จึงได้ไปติดต่อที่บริษัทอินเตอร์เน็ตจึงทราบว่านายพินิจผลสภาพการเป็นพนักงานไปแล้วและได้ก่อเหตุแบบนี้หลายครั้งในพื้นที่ อ.วารินชำราบและ อ.เมืองอุบลฯ
ด้านนางบุบผา แก่นกอ อายุ 56 ปี เล่าว่าหลานเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราบ อีกคนเรียนอยู่โรงเรียนงามจิต ชั้น ป.6 ส่วนนางสาวสิริพร ขุนตาแสง อายุ 34 ปีซึ่งเป็นลูกของนางบุบผา ปลูกบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีลูกเรียนอยู่โรงเรียนพุทธเมตตา ชั้น ป.6 และชั้น ม.1 ทั้งหมดบุตรหลานได้มาบ่นให้ฟังว่ามีปัญหามากจากการเรียนออนไลน์ เนื่องจากเน็ตมือถือที่ใช้เรียนช้ามาก ด้วยความเป็นห่วงกังวลว่าลูกหลานจะเรียนไม่ทันเพื่อน พอดีมีนายพินิจ อ้างว่าทำงานเป็นเซลล์ของบริษัทอินเตอร์เน็ต รับติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตบ้านพร้อมซิม จึงได้ให้ติดตั้งอินเทอร์เน็ตเน็ตที่บ้านให้ทั้ง 2 หลังเสียเงินไปคนละ 1,200 บาท และมาทราบภายหลังว่าถูกหลอกจึงได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับนายพินิจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามหาหลักฐานในการจ่ายเงินก็แจ้งให้ทราบว่าจ่ายเป็นเงินสด และโอน แต่ไม่ได้เก็บหลักฐานไว้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่รับแจ้งความ “อุตส่าห์ไปทำงานรับจ้างกว่าจะหาเงินมาได้เพื่อหวังจะได้ให้ลูกและหลานได้เรียนออนไลน์ มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใช้ จะได้เรียนทันเพื่อน แต่ก็มาถูกหลอกอีก เงินก็เสียไปคนละ 1,200 บาท ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง”
