ขอนแก่น-ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ขอนแก่น ให้สอบจริยธรรมและลงโทษ “เอกราช ช่างเหลา” ให้พ้นจากสภาพความเป็น ส.ส.

ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ขอนแก่น ให้สอบจริยธรรมและลงโทษ เอกราช ช่างเหลา” ให้พ้นจากสภาพความเป็น ส.ส. หลังเจ้าตัวยอมรับสภาพหนี้และให้การรับสารภาพ กรณีทุจริตเงินกว่า 431 ล้านบาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด

           วันที่ 17 ธ.ค. 64 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดขอนแก่น หรือ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกกว่า 10 คน นำเอกสารหลักฐานเป็นสำเนาหนังสือรับสภาพนี้ที่ทำขึ้นที่ทำขึ้นระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ในฐานะเจ้าหนี้ กับนายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะลูกหนี้ และสำเนาเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กว่า 431 ล้านบาท สำเนาคำฟ้องฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 258/2564 และรายงานการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ ครั้งที่ 41/2562 เข้ายื่นถึงผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอให้สอบจริยธรรมและลงโทษ นายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กรณีทุจริตเงินกว่า 431 ล้านบาท ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ซึ่งนายเอกราช ได้ยอมรับสภาพนี้และและให้การรับสารภาพแล้ว

            ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางชมรมได้ดำเนินการตามกระบวนการตามปกติ ไปในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับกรณีที่มีการยักยอกเงินไปประมาณ 431 ล้านบาท แต่ในช่วงนั้นยังไม่ปรากฏในเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน ว่าอะไรที่จะเป็นตัวบ่งชี้ในเรื่องของจริยธรรมได้ เราก็พยายามขอเอกสารที่สำคัญ นั้นก็คือหนังสือรับสภาพหนี้ของนายเอกราช ช่างเหลา เราขอไปที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ก็บอกว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล ให้ไม่ได้ เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเอกสารตัวนั้น เป็นตัวบ่งบอกความผิดที่ปรากฏชัดแจ้งในการดำเนินการของเขา กระทั้งต่อมาเราได้เอกสารที่สำคัญก็คือหนังสือรับสภาพหนี้ ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ซึ่งเนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ เป็นการรับสภาพหนี้ การเอาทรัพย์สินที่ดิน จำนวน 10 แปลง มาเป็นตัวค้ำประกัน ที่ดินที่เราดูในเอกสารตัวนั้นเป็นที่ดินที่ตั้งอยู่แยกจากถนนสายคำแก่นคูน – เขื่อนอุบลรัตน์ รวมมูลค่า 169 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การตีราคาหลักทรัพย์ดังกล่าว เป็นการประเมินโดยส่วนราชการหรือบริษัทเอกชน ซึ่งทางชมรมฯ ได้เรียกร้องให้ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเปิดเผยรายละเอียดของหนังสือฉบับนี้ เพราะประเด็นที่เราหวั่นวิตกว่าหากวันหนึ่งมีการบังคับชำระหนี้ก็จะได้เงินไม่เต็มตามจำนวนตามที่ระบุไว้

                ดร.วิศร์ กล่าวอีกว่า การที่นายเอกราช กับพวก ได้ถูกพนักงานอัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้องในคดีดังกล่าว และเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2564 นายเอกราช ได้รับสารภาพว่าได้ยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวจริง จึงถือว่าเป็นความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง และมีรายงานการประชุมของคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 41/2562 ซึ่งตกลงจะใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ยร้อย 6.5 ต่อปี คิดตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2562 ทางชมรมสนมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เห็นว่า พฤติกรรมการกระทำของนายเอกราช เป็นเยี่ยงย่างที่ไม่ดี สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศศักดิ์ศรีของผู้แทนราษฎรและชาวขอนแก่น ในฐานะที่เป็น ส.ส. และเป็นคนขอนแก่น การกระทำผิดของนายเอกราช เป็นการฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จึงเรียกร้องให้ทาง ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบจริยธรรมและลงโทษนายเอกราช โดยให้พ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. โดยเด็ดขาด เพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมและไม่ให้เป็นเยี่ยงย่างที่ไม่ดีของนักการเมืองและคนรุ่นใหม่ต่อไป